สนง.พิงคนคร แถลงผลงานประจำปี พร้อมเปิดตัวสมาชิกใหม่ ลูกสมเสร็จบราซิลเลียน ต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์
เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2562 เวลา 10.30 น. ณ ภัตตาคารยีราฟ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพิงคนคร พร้อมเจ้าหน้าที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ร่วมกันแถลงข่าวการดำเนินงานของสำนักงานพิงคนครประจำปี พร้อมพานักข่าวชมภายในส่วนจัดแสดงฯและเปิดตัวสมาชิกใหม่ ลูกสมเสร็จบราซิลเลียนเพศเมีย ที่เกิดเมื่อวันที่ 17 ก.พ.62 ที่ผ่านมา จากสมเสร็จพ่อชื่อ แปะก๊วย อายุ 8 ปี และสมเสร็จแม่ถั่วแดง อายุ 11 ปี โดยได้รับการเลี้ยงดูแบบธรรมชาติอย่างใกล้ชิดจากแม่ที่ให้กำเนิด ซึ่งถือได้ว่าเป็นสมาชิกสมเสร็จบาซิเลี่ยนตัวที่ 7 ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสมาชิกใหม่ตัวน้อยมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงพร้อมที่จะนำออกแสดงความน่ารัก ในส่วนแสดง เพื่อต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้
นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพิงคนคร ได้เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี การดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาพิงคนครในปัจจุบัน ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มุ่งเน้นในการต่อยอดทรัพยากรที่มีสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยสร้างการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ในการดำเนินงานเพื่อสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างสูงสุด ทั้งในด้านการศึกษา การพัฒนาสังคม การบริหารจัดการอย่างโปร่งใส การสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพื่อมุ่งสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างยั่งยืน
นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพิงคนคร ได้เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี การดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาพิงคนครในปัจจุบัน ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มุ่งเน้นในการต่อยอดทรัพยากรที่มีสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยสร้างการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ในการดำเนินงานเพื่อสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างสูงสุด ทั้งในด้านการศึกษา การพัฒนาสังคม การบริหารจัดการอย่างโปร่งใส การสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพื่อมุ่งสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างยั่งยืน
ในด้านการศึกษา ได้ร่วมกับคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการเปิดโอกาสให้นักศึกษาใช้พื้นที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นแหล่งศึกษาวิจัย เพื่อนำเสนอโครงงานพัฒนาสื่อการตลาดเชิงบูรณาการ สำหรับนำมาใช้พัฒนาการดำเนินงานของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณภาครัฐอย่างคุ้มค่า เพื่อการศึกษาและสร้างการมีส่วนร่วมจากเยาวชนในการพัฒนาประเทศ และเร็วๆ นี้ จะมีโครงการประกวดรูปปั้นหุ่นสัตว์จากวัสดุธรรมชาติ เพื่อเป็นการโครงการศึกษาให้แก่เยาวชนในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง และนำมาประยุกต์ใช้กับการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต่อไป
ในด้านการพัฒนาสังคม ในปีนี้ได้จัดกิจกรรมเรียนรู้ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าแก่เด็กและเยาวชนที่ขาดทุนทรัพย์ โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรม เพื่อเกิดความตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาสังคมร่วมกัน ซึ่งเด็กและเยาวชนเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต
ในด้านการบริหารจัดการ อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเทคโนโลยีให้สอดรับงานด้านการบริการ และระบบบริหารจัดการภายในที่สามารถตรวจสอบได้ รวดเร็ว รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน โดยใช้ระบบการชำระเงินด้วย QR code รองรับการให้บริการผ่านระบบ E-Payment ลดการใช้เงินสด รวมทั้งตั้งเป้าการรองรับการให้บริการ ในช่องทาง We chat แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน
ในด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ได้นำสื่อออนไลน์มาใช้ในการดำเนินงานของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ และขยายฐานนักท่องเที่ยวให้มีความหลากหลาย รวมทั้งรักษาฐานลูกค้าเดิม ผ่านช่องทาง Youtube, Facebook, Line, Wechat และเว็บไซต์ ซึ่งในช่วงระหว่างวันที่ 6 – 10 มีนาคม ที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ได้เข้าร่วมงาน International Tourismus Borse 2019 (ITB 2019) ครั้งที่ 53 ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐ โดยเป็นการเข้าร่วมงานเป็นปีที่ 3 ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับท้องถิ่น ให้สอดคล้องกับแผนงานและนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีก็เป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเที่ยว จ.เชียงใหม่ โดยเป้าหมายในปี 2562 นี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะต้องเพิ่มรายได้จาก 220 ล้านบาท จากในปีที่แล้ว ให้เป็น 250 ล้านบาท ให้ได้ ขณะที่เป้าหมายในการมาร่วมงาน International Tourismus Borse 2019 (ITB 2019) ในปีนี้ ก็เพื่อกระจายแหล่งที่มาของนักท่องเที่ยวให้มีความหลากหลายมากขึ้นจากปัจจุบัน
โดยสิ่งสำคัญที่สุด คือ การมุ่งสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซึ่งแนวโน้มในอนาคตประชาคมโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในเจเนเรชั่นของสัตว์ป่า มีเป้าหมายในการสร้างป่า สร้างธรรมชาติ รวมถึง สวัสดิภาพของสัตว์ป่าให้มีความเป็นอยู่ในแบบที่เขาต้องการ โดยในอนาคตสวนสัตว์เปิดจะเป็นอีกมิติใหม่ของประเทศไทย นับเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับประเทศชาติ และสิ่งที่ทำเวลานี้คือการสร้างสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าแก่เยาวชนและนักท่องเที่ยว ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเจริญให้กับประเทศชาติ โดยการต่อยอดทรัพยากรที่มีสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเริ่มจากคนในพื้นที่และประชาชนชาวไทยให้มีส่วนร่วม อันนำไปสู่การตระหนักถึงความรับผิดชอบของตนต่อประเทศชาติ ซึ่งรวมถึงสังคม สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติ ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน และสำหรับการดำเนินงานของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ หลังจากที่ ครม. เห็นชอบร่างกฤษฎีกา ในวันที่ 2 มกราคม 2562 ซึ่งมีระยะเวลา 60 วัน ในการลงพระปรมาภิไธย ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 2 มีนาคม 2562 นั้น ส่งผลให้ในขณะนี้ยังไม่มีการส่งมอบศูนย์ประชุมฯ ให้กับกรมธนารักษ์ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ก็จะดูแลการดำเนินงานตามภารกิจเดิมต่อไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
และในช่วงปิดเทอมนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมชมความน่ารักและร่วมตั้งชื่อให้สมาชิกใหม่ “ลูกสมเสร็จบราซิล” หรือ “สมเสร็จอเมริกาใต้” เพศเมีย วัย 1 เดือน ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมในส่วนแสดงซาวันนาซาฟารี โดยสมเสร็จบราซิล เป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดในป่าดงดิบลุ่มน้ำอะเมซอน ทวีปอเมริกาใต้ พบตั้งแต่ประเทศเวเนซุเอลา, โคลอมเบีย, บราซิล และอาร์เจนตินา ปัจจุบันในประเทศไทยมีการเพาะเลี้ยงที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีแห่งเดียว ผู้ที่สนใจร่วมตั้งชื่อให้สมาชิกใหม่ สามารถส่งชื่อมาได้ที่ Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari หรือ Line@: nightsafai
สำหรับสมเสร็จบราซิลเลียน หรือสมเสร็จอเมริกาใต้ เป็นสัตว์แปลกหายาก ที่มีความสวยงาม และมีการเพาะพันธุ์อนุรักษ์ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่ง ”ลูกสมเสร็จบราซิลเลียน” แรกเกิด ก็มีลายคล้ายแตงไทย เมื่อโตเต็มที่ จะมีแผงขนบริเวณท้ายทอยถึงไหล่ ขนบริเวณลำตัว มีสีน้ำตาลอมเทา มีจมูกยาว คล้ายกับงวงช้างสั้น ๆ มีหางสั้น รอบใบหูสีดำขอบสีขาว สำหรับสมเสร็จบราซิลเลียน จะมีอายุยืนประมาณ 25 ถึง 30 ปี เจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 3 ปี และจะตั้งท้องนานกว่า 390 – 400 วัน โดยจะสามารถออกลูกได้ครั้งละ 1 ตัวเท่านั้น
ทั้งนี้ นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพิงคนคร ได้กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า สำหรับการดำเนินงานของสำนักงานพิงคนครในปัจจุบัน ได้เน้นการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ในการต่อยอดทรัพยากรที่มี สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยได้มีการมุ่งเน้นสร้างส่วนร่วมระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันศึกษา รวมไปถึงคนในชุมชน ในการดำเนินงานเพื่อสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างสูงสุด เพื่อมุ่งสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ได้มีการสนับสนุนในด้านต่างๆ เช่นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาใช้พื้นที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นแหล่งศึกษาวิจัย การจัดกิจกรรมเรียนรู้ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าให้แก่เด็กและเยาวชน เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาสังคมร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาด้านการประชาสัมพันธ์ โดยได้นำสื่อออนไลน์มาใช้ในการประชาสัมพันธ์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ขยายฐานนักท่องเที่ยวให้มีความหลากหลาย เพื่อให้เป็นที่รู้จัก เป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับท้องถิ่น ทั้งนี้ที่ผ่านมา เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีรายได้กว่า 220 ล้านบาท โดยเป้าหมายในปี 2562 นี้ จะต้องเพิ่มรายได้จากเดิมให้เป็น 250 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้มีการวางเป้าหมายในการสร้างป่า ช่างธรรมชาติ รวมถึงสวัสดิภาพของสัตว์ป่าให้มีความเป็นอยู่ในแบบที่เขาต้องการ เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สร้างความตระหนักให้กับประชาชน ถึงความรับผิดชอบต่อธรรมชาติ และพัฒนาชุมชน และทรัพยากรธรรมชาติให้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนต่อไป.
ทรงวุฒิ ทับทอง รายงาน