เรือรบเมียนมารุกน่านน้ำไทย บุกปล้นเรือประมงไทย เจ้าของเรือโดดน้ำหนีตายที่ระนอง
2019-01-19 14:09:58
วันที่ 19 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามกรณีเรือรบเมียนมาหมายเลข 424 ลุกล้ำน่านน้ำยิงและปล้นเรือประมงไทย”แสนเจริญชัย” พร้อมจับลูกเรืออีก 6 คน ขณะกำลังลากอวนฝั่งตะวันตกของเกาะพยามระนอง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 13 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา
โดยล่าสุด พล.ร.ต วิธนรัชต์ คชเสนี เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย น.อ.สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 , น.อ.ภุชงค์ รอดนิกร เสนาธิการกองเรือปฎิบัติการทัพเรือภาคที่3 ,น.อ.พงษ์มิตร ณรงค์กูล หัวหน้ากองยุทธการกองบัญชาการทัพเรือภาคที่่3 ,น.อ.วุฒิไกร หุ่นดี หัวหน้ากองข่าวกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้ลงพื้นที่จังหวัดระนอง เพื่อพบและให้กำลังใจผู้เสียหาย(เจ้าของเรือแสนเจริญชัย)และผู้ประกอบการเรือประมงของจังหวัดระนอง พร้อมร่วมประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สมาคมประมง เพื่อรับฟังและหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก
พล.ร.ต วิธนรัชต์ คชเสนี เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีเรือประมง”แสนเจริญชัย” ได้ถูกเรือรบของเมียนมา ซึ่งเป็นเรือตรวจการณ์หมายเลข 424 จับกุมในขณะที่กำลังทำการประมง บริเวณใกล้เขตแดนกลางทะเลน่านน้ำไทยและน่านน้ำเมียนมา เมื่อคืนวันที่ 13 ที่ผ่านมา ทางกองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 3 ได้เข้าช่วยเหลือไต๋เรือและลูกเรือที่กระโดดน้ำในวันนั้น ซึ่งที่ผ่านมาทัพเรือภาคที่ 3 ได้ดำเนินการตามลำดับตั้งแต่ในช่วงแรกที่ได้รับแจ้ง ว่าเกิดเหตุขึ้น ก็ได้จัดส่งเรือ ต. 993 เข้าไปให้ความช่วยเหลือในทันที โดยเมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุปรากฏว่าเรือรบของเมียนมาได้ นำเรือ”แสงเจริญชัย” เข้าข้ามไปในเขตน่านน้ำเมียนมาเรียบร้อยแล้ว จึงได้ร่วมกับเรือประมงในบริเวณนั้น ออกค้นหาและช่วยเหลือไต๋เรือและลูกเรือในวันนั้น และสามารถช่วยเหลือกลับเข้ามาที่ฝั่งได้โดยปลอดภัย หลังจากนั้นได้ดำเนินการทำหนังสือประท้วง ผ่านทางคณะกรรมการชายแดนไทยเมียนมา ว่า เรือรบของเมียนมาได้กระทำเกินกว่าเหตุ ด้วยการที่ใช้อาวุธกับเรือประมงของเรา และได้เข้ามาจับกุมเรือประมงในเขตน่านน้ำของเรา สำหรับการดำเนินการหลังจากนี้เราได้มีการปรับการจัดวางกำลังทางเรือ โดยจะเอาเรือรบเข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่มักจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยขึ้น
เพื่อแสดงกำลังและไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเรือประมงที่เราดูแลอยู่ นอกจากนี้ยังได้ให้หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 451 ซึ่งอยู่ที่เกาะช้าง คอยเฝ้าตรวจว่ามีเรือต้องสงสัยเข้ามาหรือไม่ หากตรวจพบจะได้แจ้งให้เรือประมงในพื้นที่ได้ทราบและปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกต่อไป ขณะนี้ ทัพเรือภาคที่ 3 ได้เสนอไปที่กองทัพเรือ ขอให้มีการดำเนินการเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในเรื่องของการทำประมง โดยถูกกฎหมายในส่วนของเรา ว่าในส่วนที่เกี่ยวข้องเราได้โดนกระทำ สิ่งที่เรือประมงเราได้ทำถูกแล้วยังโดนจับกุมไปอีก ก็กำลังดำเนินการ ขอให้ทำการประท้วงผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้มีการประท้วงกันในระดับกองทัพ และระดับรัฐบาลต่อไป และขอเรียนให้ทราบว่าทางทัพเรือภาคที่ 3 โดยผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ว่า เราจะดูแลเรือประมงของไทยและใช้ศักยภาพที่มีอยู่ทั้งหมดดูแลเรือประมงของไทยที่ทำการประมงโดยสุจริต อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ได้ให้ไว้ว่า กองทัพเรือจะเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนมั่นใจและภาคภูมิใจ ในส่วนนี้ขออนุญาตเรียนว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ถ้าหากเรือประมงมีข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องก็อยากให้แจ้งให้กับทางเรือรบของไทยที่อยู่ในพื้นที่เพื่อจะได้เข้าปฏิบัติการในทันที และสามารถติดต่อกับทางเรารับได้ทางเครือข่ายมดดำ 21 ชาลี หรือสามารถติดต่อไปยังศูนย์อำนวยการทัพเรือภาคที่ 3 ที่หมายเลข 076-391598 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสามารถติดต่อกับทหารเรือในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ได้โดยตลอดเช่นกัน สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นกับเรือแสงเจริญชัย เราก็มีความเป็นห่วงและกังวล และอยากจะยืนยันว่า เราจะไม่ทอดทิ้งท่านและจะเป็นตัวแทนในการที่จะไปประสานงานกับทางฝ่ายเมียนมา และจะพยายามให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะนำเรือประมงกลับมาให้ท่านให้ได้ ส่วนจะทำได้แค่ไหน ก็สุดแล้วแต่ขั้นตอนการดำเนินการ แต่เราก็จะพยายามอย่างเต็มที่
นายวิวาห์ โลหะการ ไต๋เรือประมงแสนเจริญชัย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คืนเกิดเหตุ(13 ม.ค.2562)เวลาประมาณ 23.45 น. เรือตนเองได้ลากอวนอยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะพยาม แล้วมีเรือรบ 424 ของเมียนมา เข้ามาไล่ยิง ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงได้ตัดเชือกอวนแล้ววิ่งเรือหนี แต่วิ่งหนีไปได้นิดเดียว เนื่องจากเครื่องเรือไม่ปกติตนเองจึงได้กระโดดหนีลงน้ำ โดยเรือรบเมียนมาไล่ยิงอยู่ได้ประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นได้ยึดเรือไป ซึ่งตรงจุดที่เกิดเหตุขอยืนยันว่าเป็นน่านน้ำฝั่งไทย เพราะเรือเรามีระบบ VMS ควบคุมอยู่ตลอด เพราะหากเรือเราล้ำไปแค่เพียงนิดเดียว VMS จากกรุงเทพจะเรียกเตือนเรามาทันที เราจึงไม่ได้ล้ำไปในเขตน่านน้ำของเมียนมาอย่างแน่นอน เหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเรือรบของเมียนมาตั้งใจเข้ามาเอาเรือปล้นเราโดยเฉพาะ โดยหลังจากตนเองได้โดดลงน้ำ ได้ลอยคออยู่ในน้ำ 6 ชั่วโมงครึ่ง โดยมีหัวหน้าลูกเรืออีกคนกระโดดลงน้ำตามมาด้วย พอตอนเช้าถึงมีเรือรบและเรือประมงลำอื่นเข้ามาเจอจนได้ขึ้นเรือ และเปลี่ยนมาขึ้นเรือเทพนาวา 8 เข้าฝั่ง ในวันที่ 15 มกราคม 2562 ส่วนเรือที่ถูกเรือรบเมียนมาปล้นไปยังมีลูกเรือชาวเมียนมาอีก 6 คน ติดไปกับเรือด้วย โดยเรือกับลูกเรือที่เขาจับไปเรือรบของเมียนมาจะลากพาเรือที่ปล้นได้อ้อมไปด้านหลังอีกฝั่งนึง แล้วไปทำพิกัดว่าได้จับเรือประมงได้ที่อีกจุดนึงซึ่งเป็นเขตน่านน้ำของเขา เพื่อจะได้ตั้งข้อหาว่าลูกเรือของเราพร้อมเรือได้ไปลักปลาในเขตน่านน้ำของเขา แต่ที่จริงแล้วเรามีเอกสารยืนยันเพราะเรามีระบบ VMS และเรดาร์จากเกาะช้าง ซึ่งในแผนที่ยืนยันชัดเจนว่าเรือของเราลากอวนอยู่ในฝั่งไทย และในตอนนี้เราได้ยื่นเอกสารไปตามสิทธิ์ของเราผ่านสมาคมประมงและกรมประมงที่ระนองรวมถึงยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งตอนนี้ทางทัพเรือภาคที่ 3 ก็ได้รับเรื่องแล้วและรับปากว่าจะช่วยเหลือและนำเรือกลับคืนมาให้
ข่าว นิเวศน์ เสระหมาน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ระนอง