อาหารและยา

นราธิวาส แตออ1บาทจุดศูนย์รวมของวิถีชีวิตชาวบ้าน

เมื่อเอ่ยถึงแตออ 1 บาท หรือ ชาร้อนใส่น้ำตาลทราย ซึ่งเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของชาวมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จำหน่ายในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส คนทุกระดับชั้นต่างนึกถึงร้านของนางสาวอานิดา มะยิ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ตรอกโรงน้ำแข็ง ถ.ประชานุเคราะห์ เขตเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่เปิดจำหน่ายอยู่บริเวณชายคาของตลาดสดปะลุรู โดยได้เช่าล็อดจากเทศบาล จำนวน 3 ล็อคในราคาค่าเช่าตกวันละ 90 บาท ซึ่งแต่ละวันตั้งแต่ช่วงเช้าจรดเย็น จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนทุกระดับชั้นตั้งแต่กรรมกรยันข้าราชการระดับสูงที่นับถือศาสนาพุทธและมุสลิม ที่ทยอยเดินทางมานั่งสลับสับเปลี่ยนกันใช้บริการ มีทั้งขนม ราคาชิ้นละ 3 ถึง 5 บาท ข้าวห่อ ราคาเพียงห่อละ 15 บาท และเครื่องดื่มร้อนเย็น โดยเฉพาะแตออซึ่งมีราคาถูก ทำให้ประชาชนที่ผ่านสัญจรไปมาบริเวณร้านค้าของนางสาวอานิดา เต็มไปด้วยบรรยากาศการดำเนินวิถีชีวิตของประชาชนแบบบ้านๆ ที่พบเห็นได้ค่อยข้างยากในปัจจุบัน จนชาวสุไหงปาดีได้ตั้งฉายาร้านของนางสาวอานิดา ว่า เป็นร้านแตออ1บาท100ปี เนื่องจากนางสาวอานิดา ได้ยึดอาชีพขายสืบทอดจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกมานาน 60 ปี

 

                โดยนางสาวอานิดา ได้เล่าในระหว่างชงแตออให้กับลูกค้า ได้รับทราบถึงเรื่องราวเบื้องลึกการยึดอาชีพดังกล่าว ว่า เดิมทีบิดาเป็นคนรัฐปาหัง ประเทศมาเลเซีย ได้อพยพครอบครัวพร้อมมารดา มาอาศัยตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี โดยยึดอาชีพเป็นกรรมกรและเมื่อบิดาอายุมากขึ้น จึงได้หันมาเปิดร้านจำหน่ายชาและกาแฟ โดยได้เข็นรถไปจำหน่ายตามสถานที่ต่างๆ จนกระทั่งเริ่มมีเงินเก็บสะสมได้จำนวนหนึ่ง จึงได้หันเช่าหน้าร้านตั้งรถเข็นขาย ซึ่งสมัยนั้นตนยังเล็กอยู่ก็ได้ทำหน้าที่เสริฟชาและกาแฟให้กับลูกค้า ในช่วงก่อนไปโรงเรียนและหลังจากกลับจากเรียนหนังสือ เมื่อบิดามารดาเสียชีวิตตนจึงได้ยึดอาชีพดังกล่าวแทนจนถึงปัจจุบันนี้
                นอกจากนี้นางสาวอานิดา ยังได้เล่าเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ในแต่ละวันมีลูกค้ามาใช้บริการเยอะมาก จึงต้องนำเครือญาติอีก จำนวน 2 คน มาช่วยในการชงชากาแฟและเสริฟให้กับลูกค้า และที่คนมาใช้บริการเป็นจำนวนมากนั้น เพราะมีเงินเพียง 4 บาท ทุกคนก็สามารถรับประทานได้อิ่มท้องแล้วในมื้อเช้าซึ่งเป็นอาหารแบบเบาๆ อย่างเช่น กินขนม 1 ชิ้น และแตออเพียง 1 แก้ว ก็เสียเงินเพียง 4 บาท ซึ่งเป็นเพียงร้านเดียวที่หาซื้อมารับประทานได้ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี

 

                แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นางสาวอานิดา ได้สละเวลาเปิดเผยทิ้งท้ายก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะเดินทางกลับ ว่า บิดาและตนได้เริ่มขายชาและกาแฟมานาน 60 ปี โดยลูกค้าเป็นคนทุกระดับชั้นไม่ว่าข้าราชการคนงานก่อสร้าง และผู้สื่อข่าวได้สอบถามต่อไปว่า ที่ขายแตออเพียง 1 บาท แล้วได้อะไร ซึ่งนางสาวอานิดา สวนตอบทันควันว่า ก็ได้กำไรนิดๆหน่อยๆและเป็นช่วงเศรษฐกิจไม่ค่อยดีก็เป็นการช่วยเหลือคนจนไปในตัว หากจะถือว่าได้กำไรมากก็ไม่เชิงโดยมีรายได้วันละ 2,000 ถึง 3,000 บาทเท่านั้น

 

                ด้านนายอรรถวิทย์ สวีวงศ์ อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นลูกค้าที่คนหนึ่งมานั่งใช้บริการ เปิดเผยว่า ผมมากินตั้งแต่เด็กๆแล้วคับตอนนั้นอายุเพียง 10 ปี และได้กินมาเรื่อยๆก่อนกลับก็จะซื้อไปให้แม่มั่งซื้อไปให้พ่อมั่ง ส่วนมากคนในตลาดก็มากินที่ร้านนี้ เมื่อก่อนขายเพียงแก้วละ 25 สตางค์ ปัจจุบันนี้ก็ปรับราคาเป็น 1 บาท ลูกค้ามีทั่วไปทั้งข้าราชการ ตำรวจ อส.หรือเป็นพนักงานก็มากินอยู่ที่นี่ แล้วก็มีอิสลามตามหมู่บ้านเมื่อมีธุระเข้ามาในพื้นที่อำเภอสุไหงปาดี ก็จะแวะเวียนกันมากิน ส่วนรสชาติก็ยังอร่อยเหมือนเดิม ดีกว่าไปกิน 5 บาท หรือ 10 บาท
                                                                                ////////////////////////////////////////// 14 พฤศจิกายน 2561
นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ