6 เมษายน 2568 พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ โฆษก บช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1 ร่วมกันเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายน 68 ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.ภ.1 ชุดตรวจค้นนำโดย พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 , พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1 , พ.ต.อ.พูนสุข เตชะประเสริฐพร ผกก.สส.1 , พ.ต.อ.นัฏฐพงศ์ ศรีเพ็ญประภา ผกก.สส.2 , พ.ต.อ.ชินโชติ วัฒนธนพ ผกก.สส.3 พร้อมตำรวจ บก.สส.ภ.1 , ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สน.ท่าข้าม นำโดย พ.ต.อ.วิชานนท์ เอกตาแสง ผกก.สน.ท่าข้าม นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ลงวันที่ 4 เมษายน 2568 เข้าทำการตรวจค้นห้องพักชั้น 3 แมนชั่นแห่งหนึ่งในซอยเทียนทะเล 6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.
สืบเนื่องจากตำรวจ บก.สส.ภ.1 ได้ตรวจสอบเคสไอดี ข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัว แล้วหลอกให้โอนเงิน โดยพื้นที่เกิดเหตุ สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา แจ้งว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค.68 ผู้เสียหายถูกหลอกลวงลักษณะมิจฉาชีพโทร.มาแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ให้ทำการแอดไลน์ทำเรื่องเอกสาร พร้อมส่งลิงก์ให้ทำตามขั้นตอน หลอกลวงว่าจะคืนเงินค่ามิเตอร์ไฟฟ้าให้ ภายหลังติดต่อไม่ได้ จึงทราบว่าเป็นมิจฉาชีพ มูลค่าความเสียหายรวมโดยประมาณ 17,777 บาท จากการตรวจสอบข้อมูลระบบรับแจ้งความออนไลน์ พบว่ามีความเชื่อมโยงกับ Case ID อีกจำนวน 8 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 3 แสนบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อ-นามสกุล คนเช่าห้องพักที่เกี่ยวข้องกับไอดีดังกล่าว คือ นายภิวัตน์ สัญชาติไทย โดยมี นายหลิว สัญชาติไต้หวันเป็นคนว่าจ้างให้เปิดห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจค้น พบเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด (Sim box) ชนิดใส่ได้ 32 ซิม/เครื่อง จำนวน 3 เครื่อง 2.เราเตอร์สัญญาณอินเตอร์เน็ต 1 เครื่อง 3.กล้องวงจรปิด 1 ตัว 4.ปลั๊กสามตา 4 ตัว และ 5.เครื่องสำรองไฟ 1 เครื่อง จึงได้ทำการตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่าห้องดังกล่าวมีชาวไต้หวันเป็นผู้เช่าห้อง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวมีความผิดฐาน “ร่วมกันทำ มีใช้ นำเข้า นำออกหรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต” ชุดตรวจค้นจะได้ทำการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตามกฎหมายต่อไป