17 มีนาคม 2568 นายประพันธ์ คนหาญ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร สมัยสามัญ ประจำปี 2568 สมัยที่ 1 ครั้งที่ 1 โดยมี นายวีระพงษ์ ทองผา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร
แถลงนโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก่อนเข้ารับหน้าที่กำหนดนโยบายการบริหารราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร โดยยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และคำนึงถึงบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวมทั้งกรอบอำนาจและหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 และพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ตลอดจนกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง สอดคล้องเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนยุทธศาสตร์จังหวัด/กลุ่มจังหวัด
จึงขอแถลงนโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร โดยมีเป้าหมายหลัก คือ “สร้างงานใหม่ ใส่ใจประชา พัฒนามุกดาหาร” โดยกำหนดนโยบายการพัฒนาในด้านต่างๆ ดังนี้ 1. นโยบายด้านการศึกษา 2. นโยบายด้านสาธารณสุข 3. นโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภค สาธารณูปการ 4. นโยบายด้านการท่องเที่ยวและกีฬา 5. นโยบายด้านศาสนา วัฒนธรรม และประเพณี 6. นโยบายด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคม 7. นโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 8. นโยบายด้านการเกษตร 9. นโยบายด้านการบริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร เพื่อให้การบริหารราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหารเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงแถลงแถลงต่อที่ประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร เพื่อให้ทราบถึงเจตนารมณ์ที่จะใช้ในการบริหารราชการในระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ. 2568-2572) ให้การพัฒนาจังหวัดมุกดาหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน
โดยนำยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (สกลนคร นครพนม มกดาหาร) ยุทธศาสตร์จังหวัดมุกดาหาร และยุทธศาสตร์องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดมุกดาหาร มาเป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ภายใต้วิสัยทัศน์ “สร้างงานใหม่ ใส่ใจประชา พัฒนามุกดาหาร” รวมถึงการนำนโยบายที่แถลงมาพัฒนาจังหวัดมุกดาหาร โดยการบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้จังหวัดมุกดาหารได้มีการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร รายงาน