11 มีนาคม 2568 ที่ห้องประชุมชั้น 5 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี อ.เมือง จ.ปทุมธานี นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานีวาระเร่งด่วน โดยมี พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานีเข้าร่วมประชุมทั้งนี้ ที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์โรคติดต่อสำคัญในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่
โดยนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ที่ประชุมมีการรายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2567 ที่ผ่านมา พบว่าจังหวัดปทุมธานีมีผู้ป่วย 990 ราย เสียชีวิต 3 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตายร้อยละ 0.30 ซึ่งสูงกว่าอัตราป่วยตายของระดับประเทศ ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 0.08 ถึง 3 เท่า โดยคาดว่าสาเหตุหนึ่งอาจมาจากการควบคุมลูกน้ำยุงลายและยุงตัวเต็มวัยยังมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์เอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สถานการณ์วัณโรค และสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้า และให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจังหวัดปทุมธานีอยู่ในสถานการณ์การระบาดอยู่ในปัจจุบัน โดยพบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 มีผู้ป่วยจำนวน 3,872 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 328.24 ต่อแสนประชากร สูงเป็นอันดับที่ 14 ของประเทศ และมีแนวโน้มที่จะพบการระบาดมากยิ่งขึ้นในปีนี้ โดยที่ประชุมได้ให้คณะกรรมการฯ ร่วมกันให้ความเห็นชอบในการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มเสี่ยงตามที่ สปสช. กำหนด และกลุ่มอายุ 2-24 ปี กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงกลุ่มเปราะบางอื่น ๆ รวมจำนวนประมาณ 5 แสนคน โดยขอรับการสนับสนุนวัคซีนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเพิ่มเติมจากวัคซีนที่จะได้รับการจัดสรรจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีจำนวนไม่เพียงพอกับกลุ่มเป้าหมาย
ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวต่อว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมโรคติดต่อหรือโรคระบาดมาอย่างต่อเนื่อง ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และที่ผ่านมา ยังพบการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ เช่น โรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคติดต่ออื่นๆ ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ซึ่งจะต้องร่วมกันวางแผนการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อที่เป็นปัญหาของพื้นที่ต่อไปอัตราป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ในจังหวัดถือว่าสูง จึงต้องมีการประชุมเพื่อหาทางรับมือ และป้องกัน โดย ขอให้ทาง อบจ.ปทุมธานี ช่วยเหลือในการจัดหาวัคซีนจำนวน 320,000 โดส และทาง สปสช. จะจัดเตรียมเอาไว้ให้อีก 100,000 โดส แต่จะทยอยมาเป็นล๊อตๆ ซึ่งจะครอบคลุม กลุ่มเป้าหมาย 80% จากประชากรกลุ่มเป้าหมายกว่า 550,000 คนแต่อย่างไรก็ดี นอกจากไข้หวัดใหญ่แล้ว โรคไข้เลือดออกก็ถือว่าสำคัญเพราะกำลังจะเข้าสู่หน้าฝน ซึ่งเป็นช่วงของการระบาด จึงควรมีการเตรียมการป้องกันล่วงหน้า เช่น ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน หรือจัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก ระดมกำลังฉีดพ่นหมอกควันกำจัดยุงลายพร้อมกันทุกพื้นที่ ซึ่งในที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการให้ อปท. สามารถดำเนินการจัดหาวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ได้ เนื่องจากงบประมาณของ สปสช. ที่จะจัดซื้อไม่เพียงพอ
ด้าน พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการป้องกันโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี และมีการลงมติที่ในที่ประชุม จากสถานการณ์ ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสต่างๆ นำมาถกมาพูดคุยกัน เพราะการที่จะต่อสู้กับเชื้อไวรัสต่างๆ มันไม่อาจจะรอช้าได้ โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ ที่กำลังระบายอย่างรุนแรงในพื้นที่ปทุมธานี โดยเฉพาะลูกหลานเรา ที่เป็นเด็กอายุ 5 ขวบ ถึง 14 ขวบ ซึ่งตอนนี้มีมติที่ประชุมให้ อบจ.ปทุมธานี จัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ประมาณ 320,000 โดส และจะต้องป้องกันได้ไม่ต่ำกว่า 3 สายพันธ์ ดังนั้นเราจะต้องเร่งให้เร็วที่สุด ผมจึงมองว่า เราควรจะฉีดให้พี่น้องชาวปทุมธานีก่อนสิ้นเดือนเมษายน เพราะหากปล่อยให้เข้าหน้าฝนไปแล้วจะเกิดอันตรายมากกว่านี้ได้ ส่วนโรคไข้เลือดออก ทางที่ประชุมก็มีมติให้ทาง อบจ.ปทุมธานี และ อปท.ดำเนินการ จัดเตรียมสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นต่อการป้องกัน และ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนต่อไป
สญชัย คล้ายแก้ว รายงาน
