ดร.นิยม เวชกามา หรือมหานิยม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) ลงพื้นที่สางปัญหากรณีข่มขู่ 7 ชั่วโคตร ย้ำ พระ เณร ชาวบ้าน จะเสียขวัญไม่ได้ ท้อใจเห็นสภาพก่อสร้างทิ้งงาน เชื่อน้ำหลาก หอฉันท์ พระพุทธรูป ลงแม่น้ำชีแน่ เดินหน้านำปัญหาปรึกษา มท.1 ให้เร่งงานก่อสร้าง ขณะที่ ชาวบ้านวอน พ่อเมืองน้ำดำ ลงมาบรรเทาทุกข์สร้างขวัญกำลังใจด่วน
ปัญหาการก่อสร้างโครงการท่อระบายน้ำเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และเขื่อนป้องกันตลิ่ง ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย ยังเป็นปัญหาที่คาใจประชาชนคนกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะในจุดการก่อสร้างทั้ง 8 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการที่ทยอยอนุมัติโดย กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย รวม 545 ล้านบาท จ้างให้ 2 หจก. ขาใหญ่ แห่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2562 ถึง ปัจจุบันก่อสร้างไม่เสร็จแม้แต่โครงการเดียว จนถูก กรมโยธาธิการและผังเมือง ยกเลิกสัญญาจ้างทั้งหมด และ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ประกาศเวียนห้างไปทุกหน่วยงาน และ กมธ.ปปช.สภาฯ – สตง. กำลังตรวจสอบเอาผิดเพื่อเรียกค่าเสียหายและดำเนินคดีตามอำนาจหน้าที่ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 ปัญหาการก่อสร้างโครงการท่อระบายน้ำเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และเขื่อนป้องกันตลิ่ง ที่ชาวกาฬสินธุ์ ประณามว่าเป็นโครงการ 7 ชั่วโคตร ทุกพื้นที่ยังอยู่ในสภาพเดิมที่รอให้ กรมโยธาธิการและผังเมือง จัดหาผู้รับจ้างเข้ามาทำงาน รวมถึงการตั้งตารอให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้ามาสอบถามสารทุกข์สุขดิบเพื่อขยัดปัญหาที่ค้างคาใจปลอบขวัญให้กับประชาชน แต่พบว่าสิ่งที่คาดหวังยังนิ่งสนิทไม่พบผู้มีอำนาจในการจัดการบริหารเข้ามาสอบถามแต่อย่างใด จะมีเพียงก่อนหน้าที่ ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ปปช.ฯ เข้ามาติดตามปัญหาในช่วงต้นสัปดาห์ก่อน ตรงจุดก่อสร้างโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งลำน้ำพาน อยู่ต้านหลังตลาดปู่ปากพาน ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ ที่ชาวบ้านยังวิตกกังวลเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดน้ำหลากเข้ามาท่วมบ้านเรือนของตนเอง
นายบุญกอง ฤทธิ์เรือง อดีตประธานสภาเทศบาลตำบลลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์กล่าวว่า จุดก่อสร้างโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งลำน้ำพาน อยู่ด้านหลังตลาดปู่ปากพาน มีบ้านเรือนชาวบ้าน มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาคารสำนักงานเทศบาลตำบลลำพาน จุดก่อสร้างความยาว 562 ม. ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 23 ก.ย.64 สิ้นสุดสัญญา 4 ก.ค.66 งบ 44,490,000 บาท เบิกจ่าย 13,737,000 บาท อดีตเคยมีผู้รับเหมาเข้ามาทำงาน 3 ชุด สุดท้ายก็ทิ้งงานไป ปล่อยให้จุดก่อสร้างและบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย และขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากตลิ่งทรุดตัว สิ่งปลูกสร้างตามแนวตลิ่งเสี่ยงต่อการพังทลายลงแม่น้ำลำพานทุกวัน หากถึงฤดูน้ำหลาก ระดับน้ำเพิ่มขึ้น คงเกิดการเซาะพังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“บริเวณหลังวัดป่าแดนนาบุญ ที่เคยเป็นหาดทรายกว้างขวาง และสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน นักท่องเที่ยวตั้งชื่อให้ว่าหาดพัทยา 5 เป็นสถานที่จัดงานบุญประเพณีและงานประจำปีของตำบล แต่ปัจจุบันนี้ได้รับความเสียหาย กลายเป็นป่าละเมาะ ที่วางกองดิน กองหินและเสาเข็ม จากที่เคยหวังว่าจะได้มีเขื่อนป้องกันตลิ่งที่มีความมั่นคง แข็งแรง และสวยงาม เป็นจุดชมวิว ถนนคนเดิน สถานที่ออกกำลังกาย และพักผ่อนหย่อนใจริมแม่น้ำลำพาน เหมือนริมฝั่งแม่น้ำโขง จ.นครพนม ก็ไม่ต่างกับฝันสลาย ผู้รับเหมาทำงานไม่เสร็จ แถมทิ้งเศษซากการก่อสร้างไว้ดูต่างหน้า ตนและชาวบ้านจึงรู้สึกหดหู่ใจกับผลงานที่ล้มเหลวของผู้รับเหมา จึงขอส่งเสียงสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น และความเดือดร้อนของชาวบ้าน ไปถึงกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง รวมถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ให้เร่งรีบแก้ไขปัญหาด้วย ทั้งนี้ ชาวบ้านจึงได้รวมพลังเรียกร้องความเป็นธรรม ให้กับงบประมาณที่เป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน ได้จัดหาผู้รับจ้างมาดำเนินการก่อสร้างในฤดูน้ำลดนี้ ก่อนที่จะถึงฤดูน้ำหลากจะมาถึง ซึ่งจะทำให้เป็นอุปสรรคในการทำงาน ตลิ่งทรุดตัว วัด อาคารบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างริมแม่น้ำพังทลาย ที่จะกลายเป็นตราบาปให้กับแผ่นดิน” นายบุญกองกล่าวในที่สุด
ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลางรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ (28 ก.พ.) ดร.นิยม เวชกามา หรือมหานิยม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) พร้อมคณะ ได้เดินทางมาติดตามปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน 7 ชั่วโคตรที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อสอบถามปัญหาความเดือดร้อนของพระเณร ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน บริเวณจุดก่อสร้างโครงการที่ได้รับผลกระทบ ตรงจุดโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งวัดท่าใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โดยมีพระอธิการชยุต โชติวโร รองเจ้าคณะตำบลเจ้าท่า เจ้าอาวาสวัดใหม่สามัคคี นายสยามพัชร์ ทิพสอน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.กาฬสินธุ์ นายณัฐสิทธิ์ สิงห์ด้วง นักวิชาการศาสนาชำนาญการฯ ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน ร่วมต้อนรับและรายงานปัญหาความเดือดร้อน เบื้องต้นจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ ทำให้พระเณร ชาวบ้าน รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจมากขึ้น ที่ “มหานิยม” นักสู้ผู้พิทักษ์ดงขมิ้น ให้ความเอาใจใส่ ในความทุกข์ของพระเณรและชาวบ้านที่เผชิญกับปัญหามานาน
โดยก่อนลงพื้นที่ “มหานิยม” ดร.นิยม เวชกามา และคณะ ได้เข้ากราบนมัสการ เข้ากราบนมัสการพระธรรมวชิรนิวิฐ (บัวศรี ชุตินฺธโร) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 (ธ) ที่วัดประชานิยม และเข้ากราบนมัสการพระเมธีวัชราจารย์, ดร.(วรวิทย์ ธมฺมจาโร) เจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ ที่วัดกลาง พระอารามหลวง และพระราชศีลโสภิต (หลวงปู่หนูอินทร์ กิตฺติสาโร) ที่ปรึกษาเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ ที่วัดป่าพุทธมงคล, เพื่อให้ช่วยดูแลวัดและพระที่วัดใหม่สามัคคีที่มีปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน จากนั้นลงพื้นที่ดูสภาพปัญหา ที่โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งวัดท่าใหม่สามัคคีฯ ท่ามกลางพี่น้องประชาชนที่ต่างเฝ้ารอความหวังและกำลังใจในการเข้าช่วยเหลือ
ดร.นิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดจากผู้รับเหมาทิ้งงาน และพระ ถูกข้าราชการบางคนข่มขู่หลังออกมาร้องเรียน การลงพื้นที่ได้รับการประสานงานจาก นายทินพล ศรีธเรศ สส.กาฬสินธุ์ เขต 5 พรรคเพื่อไทย จึงได้เดินทางมาดูสภาพปัญหาและให้กำลังใจพระเณร ชาวบ้าน ผู้ได้รับผลกระทบและไม่ได้รับความเป็นธรรม และในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล ที่ดูแลด้านพระพุทธศาสนา วัด พระเณร ดังนั้นพระ เณร จะขวัญเสียไม่ได้ จะต้องมีขวัญกำลังใจอยู่เสมอ ในการเป็นหลักบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นที่พึ่งทางจิตใจของชาวบ้าน จากการลงพื้นที่เห็นปัญหาด้วยตาตัวเองแล้ว รู้สึกเศร้าใจ ทำไมผู้รับเหมาทำกับคนกาฬสินธุ์อย่างนี้ ฝากถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหานี้ให้สำเร็จลุล่วงต่อไปด้วย
“ตนต่อสู้ให้พระและวงการสงฆ์มาโดยตลอด เห็นการเรียกร้องของพี่น้องประชาชนชาวกาฬสินธุ์ เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาโดยชอบธรรม ขอชื่นชมว่าคนกาฬสินธุ์เก่งกะด้อ (ภาษถิ่น=เก่งมาก) ทั้งนี้ จุดก่อสร้างวัดใหม่สามัคคี เห็นความเสียหายที่เกิดจากผู้รับเหมาทิ้งงาน และน้ำชีกัดเซาะเป็นแนวยาว ก็รู้สึกเป็นห่วงเป็นใย ขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านงบประมาณคือกรมโยธาธิการและผังเมือง อย่าปล่อยให้วัดพัง หลังจากนี้จะไปหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อทราบแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป ทั้งนี้ การลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็เพื่อมาให้กำลังใจ เห็นพระ ชาวบ้านมีกำลังใจ ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะพระกับวัด และชาวบ้านแยกกันไม่ออก มีความผูกพันต่อกัน มีปัญหาอะไรมากระทบ ก็ต้องร่วมด้วยช่วยกันพิทักษ์สิทธิ ผดุงความยุติธรรม รักษาสมบัติของแผ่นดินร่วมกัน สำนักพุทธฯ ต้องเข้ามาช่วยดูแล” ดร.นิยมกล่าว
ด้านนายเรืองชัย ระดาฤทธิ์ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่าปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน ทำให้พระ ชาวบ้าน อยู่กันอย่างทุกข์ทรมานและลำบากใจมาก ร้องเรียนหลายครั้งเรื่องก็ยังเงียบหาย ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ผู้ว่าฯ ก็ไม่เห็นมาดูปัญหา อยากให้ท่านมาดูบ้าง มาให้กำลังใจพระ ชาวบ้านและวัด ที่เป็นทรัพย์สินของทางราชการ ปัญหามีไว้แก้ ถ้าหนีปัญหา ปัญหาก็จะไม่จบ ทุกวันนี้ต่างรู้สึกหวาดกลัวว่าอาคารหอฉัน บริเวณประดิษฐานพระพุทธรูป และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมจะเกิดการทรุดพังเสียหาย อย่างไรก็ตาม วันนี้ ดร.นิยม เวชกามา ผู้ช่วย รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะ มาดูสภาพปัญหาและให้กำลังใจ ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ชาวบ้านรู้สึกอบอุ่น มีขวัญกำลังใจมากขึ้น ว่าไม่ถูกปล่อยทิ้งให้เผชิญปัญหาตามลำพังเหมือนที่ผ่านมา