เจ้าอาวาสวัดผาลาด นำประชาชนจิตอาสา ทำความสะอาดและพัฒนาเส้นทางเดิน เชิงดอยสุเทพ
เจ้าอาวาสวัดผาลาด เชียงใหม่ นำประชาชนจิตอาสา ทำความสะอาดและพัฒนาเส้นทางเดิน เชิงดอยสุเทพ ขึ้นไปยังวัดผาลาดระยะทาง 3 กิโลเมตร เพื่อนำขบวนช้าง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปดอกไม้ นำไปให้ประชาชนกราบไหว้สักการะสรงน้ำ ย้อนรอยเส้นทางประวัติศาสตร์ ที่พญากือนา เจ้าหลวงเชียงใหม่ นำช้างเดินขึ้นเส้นทางนี้ เพื่อเสี่ยงทาย สถานที่ประดิษฐ์ พระบรมสารีริกธาตุ บนวัดพระธาตุดอยสุเทพ เมื่อปี พ ศ. 1917 หรือ 651 ปี ที่ผ่านมา
พระครู ธีรสุตพจน์ หรือพระมหาสง่า เจ้าอาวาสวัดผาลาด สกิทาคามี นำชาวบ้านจิตอาสา และส่วนราชการ ประมาณ 100 คน นำอุปกรณ์ มีด จอบ คาด ทำความสะอาดหญ้าแห้ง และกวาดทำความสะอาดใบไม้ เส้นทางสายประวัติศาสตร์ จากเชิงดอยสุเทพ เดินเท้าขึ้นไปยัง วัดผาลาด สกิทาคามี ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร คาดว่าใช้เวลาประมาณครึ่งวัน เพื่อจัดงานเทศกาลมาฆบูชา วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568
พระครู ธีรสุตพจน์ บอกว่า เส้นทางสายนี้ ในอดีต พญากือนา กษัตริย์เชียงใหม่ องค์ที่ 6 ราชวงศ์ มังราย ได้ใช้เส้นทางนี้ นำพระบรมสารีริกธาตุ ขึ้นหลังช้าง เพื่อเสี่ยงทาย สถานที่ ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ เมื่อ ปี พ ศ. 1917 หรือเมื่อ 651 ปี ที่ผ่านมา ระหว่างทางช้างที่นำพระบรมสารีริกธาตุขึ้นไป ได้หยุดพันถึง 3 แห่ง และเมื่อถึงวัดดอยสุเทพ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ ในปัจจุบัน ช้างก็ล้มตาย ภายหลังพญากือนา ได้ให้สร้างวัด จุดที่ช้างพักทั้ง 3 แห่ง คือ วัดโสดาปันนาราม หรือวัดผาลาด วัดสกทาคามี (สะ-กะ-ทา-คา-มี ) ปันจุบันอยู่ในเขตวัดผาลาด และวัด อนาคามี (อะ-นา-คา-มี ) ปัจจุบันหายสาบสูญ ไม่พบร่องรอย ทั้งนี้เพื่อเป็นการย้อนรอยประวัติศาสตร์ และยังเป็นการตามรอยครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ที่สร้างเส้นทางขึ้นดอยสุเทพ และในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา ก็จะเดินย้อนรอยประวัติศาสตร์ ขึ้นไปยังวัดผาลาด มีขบวนช้าง 2 เชือก เพื่อนำพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปดอกไม้ เดินขึ้นไป พร้อมขบวนช่างฟ้อน ขบวนธรรมยาตรา เพื่อให้ประชาชน ได้สักการะและสรงน้ำ และยังเป็นการทบทวนบทบาท ในการให้เยาวชน ช่วยกันร่วมกันอนุรักษ์และช่วยกันรักษาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งรักษาโบราณสถานไปพร้อมกัน พร้อมเชิญชวนประชาชนมาร่วมงาน และเส้นทางนี้ ยังเป็นเส้นทางท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยว ใช้เดินออกกำลังกาย.