การเปิดเวทีปราศรัยเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ.นราธิวาส ในช่วงโค้งสุดท้ายในช่วงคืนที่ผ่านมา ถือว่ามีการปราศรัยแบบถึงพริกถึงขิงระหว่างทัพบ้านใหญ่ของกูเซ็ง ยาวอหะซัน อดีตนายก อบจ.5 สมัย ที่เปิดเวทีปราศรัยที่สนามฟุตบอล อบจ.กับบ้านเล็กนายอับดุล์ลักษณ์ สะอิ พี่ชายคนโตของนายซาการียา สะอิ ส.ส.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย ที่เปิดเวทีปราศรัยที่สนามฟุตบอลเทศบาลเมืองนราธิวาส ซึ่งทั้งบ้านใหญ่และบ้านเล็ก ต่างไม่น้อยหน้ามีประชาชนคอการเมืองเดินทางมารับฟังการปราศรัยของในครั้งนี้ เวทีละประมาณ 12,000 คนเศษ ซึ่งถือว่ามีประชาชนมารับฟังการปราศรัยมากเป็นประวัติการหาเสียงในทุกครั้งทุกสนามที่มีการจัดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส ที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 1 ก.พ.68 ที่จะถึงนี้
การปราศรัยเวทีของ นายอับดุลเลาะห์ สะอิ หรือบ้านเล็ก ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคกล้าธรรม ได้ร่วมมือกับ 2 ส.ส.มือขวาของ ร.อ.ธรรมนัส คือ นายอามินทร์ และนายสัมพันธ์ มะดาโอ๊ะ ที่ได้ร่วมกับนายซาการียา สะอิ ซึ่งเป็นน้องชายของนายอับดุลลักษณ์ หรือ แบเลาะ ผู้สมัครนายก อบจ.ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญของนายกูเซ็ง ที่ถือว่าเป็นบ้านใหญ่ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดเวทีปราศรัยเวทีที่ 4 และเป็นเวทีที่ 2 ของ ร.อ.ธรรมนัส
โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีตอนหนึ่ง ความว่า จะทำอย่างไรให้นราธิวาสของเรา สมัยผมเป็นเด็กๆไปเที่ยวหาดนราทัศน์รู้จักมั๊ยบางคนไม่รู้จักเลย สมัยตอนเด็กๆหาดนราทัศน์คนคึกครึกขายของก็สนุกเศรษฐกิจก็ดี พี่น้องที่อาศัยอยู่ใกล้ๆหาดนราทัศน์ขายข้าวขายของเศรษฐกิจก็ดีแต่ตอนนี้มันซบเซา เศรษฐกิจของพี่น้องมันต้องพัฒนาด้านการเมือง การเมืองไม่ใช่การเมืองระดับชาติอย่างเดียว ต้องเป็นการเมืองระดับ อบต. เทศบาล เลยไปถึง อบจ. ทำให้ อบจ.เทศบาลมีความเข้มแข็ง แล้ว อบจ.ในฐานะพี่ใหญ่เราไม่ใช่รอจัดสรรงบประมาณปีละ 100 หรือ 200 เมื่อไหร่จะพัฒนาบ้านเมือง มันต้องไปหาปลาในท้องมหาสมุทร เพื่อมาหล่อเลี้ยงคนนราธิวาสใช่มั๊ยพี่น้อง ดังนั้นพี่น้องครับมันถึงเวลาแล้วคนนราต้องตื่น ผมทนเห็นคนนราถูกดูถูกไม่ได้ เวลาผมอยู่กรุงเทพมหานครอย่าว่าแต่คนนราเลยครับ ป้านทะเบียนรถมอเตอร์ไซด์ป้ายทะเบียนรถยนต์ ที่มันเสียข้างทางที่ลงท้ายด้วยนราธิวาส ผมต้องสั่งให้ลูกน้องจอดกูจะดูความเรียบร้อยของคนบ้านกู เป็นรากเหง้าเป็นพื้นฐานของการเมืองใหญ่ ถ้าท่านได้ผู้นำท้องถิ่นที่ไม่เข้มแข็ง ท่านได้ผู้นำท้องถิ่นที่เปรียบเสมือนโทรศัพท์เก่า มันใช้การไม่ได้มันมีความจำเป็นต้องหาของใหม่ที่เขามีความพร้อม ที่มีความทันสมัยที่มีเครือข่ายเข้ามาแทน ผมถามพี่น้องที่นั่งอยู่ตรงนี้พี่น้องพร้อมที่จะเป็นนราธิวาสไปกับทีมงานของผมมั๊ยครับ เปลี่ยนมั๊ยรับ เปลี่ยนมั๊ย เปลี่ยนมั๊ย
ซึ่งต่อมา นายอับดุลลักษณ์ หรือ แบเลาะห์ ผู้สมัครหมายเลข 2 ขึ้นเวทีมาขอคะแนนเสียงอ้อนพี่น้องประชาชน ชูนโยบายการทำงานต่อพี่น้องประชาชนทันที โดยแบเลาะเริ่มต้นด้วยนโยบาย 5 ข้อ ในการจะมาเป็นนายก อบจ. เพื่อให้นราธิวาสเกิดการเปลี่ยนแปลงทันที เริ่มด้วยการจัดทำแผนพัฒนาพื้นที่ให้เสร็จภายใน 1 เดือน และจัดเวทีประชาคมทุกพื้นที่เพื่อทำตามความต้องการของประชาชนว่าแต่ละพื้นที่ต้องการอะไร มีบริบทอะไรที่ต้องพัฒนา เสริม ต่อยอดให้ดีขึ้น และต่อด้วยการส่งเสริมด้านกีฬา เพื่อให้เป็นเครื่องมือในการห่างไกลยาเสพติด และจะจัดนิทรรศการแสดงหัตกรรมศิลปะพื้นบ้าน ของพื้นถิ่นให้มีการพัฒนาสามารถเป็นสินค้าส่งออกได้ และสุดท้ายจะดำเนินการเรื่องการศึกษาด้วยนำติวเตอร์มาสอนฟรีให้กับชาวนราธิวาสเพื่อให้มีความรู้สามารถนำไปสอบรับราชการหรือเพื่อไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นตามความต้องการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สุดท้ายเป็นนโยบายเร่งด่วนเนื่องจากพื้นที่นราธิวาสเกิดอุทกภัยบ่อยครั้งการจัดเจ้าหน้าที่กู้ชีพกูภัยเพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนและจัดตั้งศูนย์ในการช่วยเหลือฉุกเฉินจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนเวทีที่ 2 ของบ้านใหญ่ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้เดินทางมาร่วมฟังการปราศรัย จากแกนนำพรรคประชาชาติ อาทิ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส, นายกูเฮง ยาวอหะซัน ซึ่งเป็นลูกชายคนรอง เลขานุการ รมว.ยุติธรรม พล.ต.ท. พัฒนวุธ อังคะนาวิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และแกนนำคนอื่นๆ ผลัดกันขึ้นปราศรัย รวมทั้งยังมีนายวัชระ ยาวอหะซัน (แบยอร์ หรือกูบีรอ) สส.นราธิวาส เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นลูกชายคนโต ของนายกูเซ็ง
ซึ่งนายวัชระ หรือ แบยอร์ หรือกูบีรอ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยสนับสนุนนายกูเซ็งผู้เป็นบิดา ช่วงหนึ่งมีใจความว่า ท่านนายกกูเซ็งท่านไม่กล้าบอกท่านไม่กล้าพูดฝากผมมาพูด ไม่มีในประวัติศาสตร์ท่านนายกกูเซ็งอยู่กับลุงตู่ตอนนั้น ให้ทุกอย่างใน จ.นราธิวาส ดูสนามบินซิครับเราได้สนามบินแห่งใหม่ ดูถนนทุกสายซิขึ้นไปยือลาแป ดูสุไหงโก-ลก 4 เลนก็มาแล้วโครงการใหญ่ๆนราธิวาส 4 เลนถึงอำเภอระแงะ แต่เขาบอกว่าไม่มีผลงานสวนทางนี่คือ ไอ้คนที่ไม่คิดถึงความดีผมไม่อยากให้คนไม่ดีมานราธิวาส วันนี้ผมอยากให้เราสร้างนายก อบจ.เบอร์ 1 ยะลา นราธิวาส ปัตตานี ให้ได้ทุกจังหวัด เอารับเราสู้น่ะครับเอานายก อบจ.ก่อน วันนี้ผมอยู่ตรงไหนให้พ่ออยู่ตรงนั้น ผมลูกพ่อผมสู้ตาย นี่คือฐานสำคัญจะเอาพรรคประชาชาติทั้งหมด 13 เขตเอาให้หมด เราอามา 20 ตำแหน่งผมต้องการรัฐมนตรีนราธิวาส หรือ 3 จังหวัดผมจะอยู่เบื้องหลังทั้งหมดผมไม่อยากเป็น คนที่มีความมั่นใจความมั่นคงที่จะเป็นมี 2 คนในนราธิวาส ก็มีกูเฮง ยาวอหะซันและกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ โอกาสมาแน่นอน ฐานนี้คือฐานแรกตอหม้อแรก ที่จะสร้างตึกให้มันยิ่งใหญ่ เราจะแก้ปัญหาทุกอย่าง 3 ชายแดนเรามันมืดมิด ส.ส.แถวนั้นมันทำบ้าอะไรไม่ทำงานเลย
นอกจากนี้ นายกูเฮง ยาวอหะซัน ลูกชายคนรองของนายกูเซ็ง ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีเป็นภาษามลายู โดยในช่วงหนึ่งของการปราศรัย มีการนำภาพและคลิปวิดีโอของนายอับดุลลักษณ์ สะอิ หรือ แบเลาะห์ ผู้สมัครนายก อบจ.คู่แข่ง ซึ่งมีการวิจารณ์นโยบายของนายอับดุลลักษณ์ ทั้งโมเดลกำจัดขยะ สนามกีฬา เสาไฟฟ้า เป็นต้น พร้อมได้เปิดคลิป วี.ที.อาร์. ในชื่อ กูเซ็ง โมเดล ได้แก่ ความเมตตา, ความเข้าใจ, การบริการ, ประสบการณ์, เครือข่าย และเป้าหมาย มาเปรียบทียบ ให้เห็นความแจกต่าง ก่อนที่นายกูเซ็ง จะขึ้นเวทีปราศรัยก่อนจะมีการกล่าวดุอาปิดการปราศรัย
นูอารีซ๊ะ ยะยือริ รายงาน