ผบช.ภ. 5 ทลายเครือข่ายยารายใหญ่ บริษัทขนส่งส่งยาจากเหนือกระจายสู่ภาคใต้ และคดีสำคัญ 3 คดี
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 25 ธ.ค.67 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค5 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ปปส. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายไววิทย์ เกิดเหมาะ อายุ 29 ปีบ้านอยู่ จ.สุรินทร์ พร้อมของกลางยาบ้า 460,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้อมิตชูบิชิ แอททราจ จำนวน 1 คัน นำตัวดำเนินคดีข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1 โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน เป็นการกระทำโดยหัวหน้า ผู้มีหน้าที่สั่งการหรือผู้มีหน้าที่จัดการในเครือข่ายอาชญกรรม และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
การจับกุมครั้งนี้ทางชุดสืบสวนภาค 5 ชุดตำรวจสภ.แม่สาย สืบทราบว่ามีขบวนการค้ายาเสพติดจากภาคใต้ลอบเปิดบริษัทขนส่งพัสดุบังหน้าแล้วลอบส่งยาจากเหนือสู่ใต้ จึงเฝ้าติดตามจนพบผู้ต้องหาขับรถของกลาง มาที่ตำบลโป่งผา อ.แม้สายจึงสกัดจับไว้ตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนมาในรถ ก่อนจะขยายผลไปตรวจค้นที่บริษัทขนส่ง tangthaipost ในตัวเมืองแม่สายก็พบกล่องพัสดุส่งไปยังพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 11 กล่องจึงติดตามไปที่จ.สงขลาพบพัสดุ จำนวน 5 กล่องเป็นยาบ้าจำนวน 513,800 เม็ด จับผู้มารับของ 1 คน จังหวัดกระบี่ พบพัสดุจำนวน 2 กล่องยาบ้า 180,000 เม็ดจับผู้มารับพัสดุจำนวน 2 คน จังหวัดสตูล พบพัสดุ 4 กล่องยาบ้า 333,300 เม็ด ไม่พบผู้ต้องหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สืบรู้ผู้บงการทั้งหมดได้อีก5 คนมีการิกหมายจับและจะได้ติดตามจับกุมทั้งหมดต่อไป
คดี 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตรวจยึดที่ร้านส่งพัสดุในพื้นที่ที่กำลังจะส่งของไปยังประเทศออสเตเรีย พบของในนั้นเป็นกล่องพัสดุจำนวน 5 กล่องข้างในเป็นผ้าขนหนู แต่ชุบด้วยยาไอซ์ น้ำหนัก 90 กิโลกรัม พบผู้นำส่งคือนายกฤษดา บ้านอยู่ อ.เชียงแสน จึงตามไปติดตามจับกุมตัวนายกฤษดา ไว้ได้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารถาพว่า รับออเดอร์มาจากพ่อค้ายาที่กทม. ให้ทำการลอบส่งยาไอซ์ล็อตนี้ไปประเทศออสเตเรีย โดยใช้วิธีนำยาไอซ์มาละลายน้ำแล้วเอาผ้าขนหนูชุบแล้วนำไปอบ ให้เกร็ดยาไอซ์ซุบติดกับผ้าขนหนูเพื่อตบตาด่านตรวจในการนำส่งต่างประเทศ โดยพึ่งทำครั้งแรก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลการจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
คดีที่ 3 ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ออกสืบสวนหาข่าวและติดตาม
ผู้มีพฤติการณ์ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จากแนวทางการสืบสวน ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าได้มีร้านจำหน่ายกัญชา ร้านเดอะ กลอรี่ เดย์ และ ร้านริเวอร์ไซด์ ดิสเพนสะรี่ ถ.ท่าแพ ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด(เห็ดขี้ควาย) ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวในเขตรับผิดชอบ
ต่อมาวันที่ 24 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณก่อนเที่ยงวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จึงวางแผนการล่อซื้อยาเสพติดจากร้านดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จึงนำกำลังพร้อมด้วยสายลับเดินทางไปยังสถานที่นัดหมายใกล้ร้านดังกล่าวและได้ให้สายลับเข้าไปซื้อยาเสพติด ใช้เวลาไม่นานสายลับก็ได้นำยาเสพติด มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ และแจ้งรายละเอียดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นการซื้อ-ขายยาเสพติดครั้งนี้สำเร็จลงแล้ว ดังนั้นจึงเข้าไปทำการจับกุมและตรวจค้นในทันที เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปยังร้านดังกล่าวพบว่าพนักงานภายในร้านได้พากันหลบออกทางด้านหลังร้านเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จึงได้เข้าแสดงตัว สอบถามบุคคลที่อยู่ด้านหลังร้านดังกล่าว แจ้งว่าตนชื่อ Mrs.MO MOและขอทำการตรวจค้นที่ตัว โดยก่อนทำการตรวจค้น ซึ่งก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ทุกนายได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ให้ดูจนเป็นที่พอใจแล้วจึงทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบ ของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (เห็ดขี้ควาย) จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้ทำการตรวจค้นต่อเนื่องไปยังด้านหลังร้านดังกล่าวซึ่งเป็นที่พักของพนักงาน จนมาถึงหน้าห้องพัก
พบ น.ส.พลอยไพลิน ยืนอยู่บริเวณหน้าห้องดังกล่าว จากการสอบถามเป็นพนักงานของร้าน และห้องดังกล่าวเป็นห้องของตน
เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ จึงขอตรวจค้นภายในห้อง ซึ่ง น.ส.พลอยไพลิน ยินยอมและสมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ เข้าตรวจค้นภายในห้องดังกล่าวพบ Mrs. MAY THU และ Mrs.THI THI NYEIN อยู่ภายในห้อง ผลการตรวจค้นภายในห้อง พบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (เห็ดขี้ควาย) ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะภายในห้องพัก อยู่ในความครอบครองของ จึงได้ทำการจับกุมทั้ง 4 คน และตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และคดีตำรวจภูธรภาค 5 ทลายรังผลิตชิ้นส่วนอาวุธปืนเถื่อนส่งขายออนไลน์ 2 จุดรวบผู้ต้องหา 2 รายพร้อมตรวจยึดชิ้นส่วนอาวุธปืนและเครื่องมือผลิตกว่า 100 รายการตำรวจภูธรภาค 5 โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ฐานความผิดคำประกอบมีหรือจำหน่ายอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่