ข่าว นราธิวาส ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเด่น

ทวีสานต่อนโยบายอุ๊งอิ้ง หลังพบนายกมาเลย์ ยกระดับด่านบูเก๊ะตา รองรับความเติบโตธุรกิจในอนาคต หลังล่าช้ามากว่า 15 ปี

22 ธันวาคม 67 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ปธ.คณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน พล.ต.ท.พัฒนาวุธ อังคะนาวิน คณะที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายกูเซ้ง ยาวอหะซัน อดีต นายก อบจ.นราธิวาส ได้เดินทางมายังด่านพรมแดนบูเก๊ะตา ม.2 ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับด่านพะรมแดนบ้านบูเก๊ะบูงอ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ในการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการเปิดด่านพรมแดนบูเก๊ะตา พร้อมรับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะแนวทางการขับเคลื่อนด่านศุลกากร

เมื่อถึงบริเวณด่านพรมแดนบูเก๊ะตา น.อ.จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผอ.ส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศอ.บต.และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องคอยให้การต้อนรับ ซึ่ง น.อ.จักรพงษ์ ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานที่ได้รับมอบหมาย 5 ประเด็นหลักด้วยกัน ที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินงานที่ล่าช้ามานานกว่า 15 ปี คือ 1. เร่งรัดเรื่องเวนคืนที่ดินของประชาชน 2.ปรับปรุงแบบด่านพรมแดนให้เหมือนกับด่านพรมแดนอื่นๆ 3. เตรียมสร้างที่พักอาศัยให้กับเจ้าหน้าที่ 4.ปรับปรุงไฟฟ้า ประปาและระบบวายฟาย และ 5.ประสานทางการมาเลเซียเพื่อก่อสร้างสะพานคู่ขนานในอนาคต


ต่อมา พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม ได้เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ น.ส.อัจฉรา โพธิ์พันธุ์ นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผกก.ตม.จว.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 40 คน ที่ห้องประชุมด่านศุลกากรบูเก๊ะตา ซึ่งในที่ประชุมมีการกล่าวถึง การขับเคลื่อนในการประเมินสิ่งก่อสร้างที่ทาง จ.นราธิวาส เป็นผู้รับผิดชอบให้มีการขับเคลื่อนโดยเร็ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้เดินทางไปพบนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา ที่ต้องการให้ด่านบูเก๊ะตาเป็นด่านปศุสัตว์และด่านสินค้าการเกษตร รวมไปผลพลอยได้ด้านการท่องเที่ยว แต่ยังคงมีเรื่องของการแพร่ระบาดของยาเสพติด ที่ฝั่งไทยผู้รับผิดชอบเป็นทางกระทรวงยึติธรรม แต่มาเลเซียผู้รับผิดชอบเป็นกระทรวงมหาดไทย และหลังปีใหม่นี้จะการเข้าพบแก้ปัญหาอย่างเป็นทางการร่วมกัน ซึ่งทางการประเทศมาเลเซียได้ออกมาตรการส่งเจ้าหน้าที่มาประจำช่องทางข้ามธรรมชาติ ที่อยู่ตรงข้ามกับประเทศไทยนั้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลกลางของประเทศมาเลเซีย ได้มีการรับรายงานการจับกุมยาเสพติดล๊อตใหญ่รวมไปอาวุธปืน จึงได้ออกมาตรการดังกล่าว ที่สร้างความเดือดร้อนต่อวิถีชีวิตของประชาชนตามแนวพรมแดน

ต่อมา พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม ได้เดินทางพบปะพี่น้องประชาชนบ้านบูเก๊ะตา จำนวนกว่า 400 คน เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาการดำเนินการสร้างด่านบูเก๊ะตา ซึ่งล่าช้ามานานกว่า 15 ปี ซึ่งได้มีตัวแทนชาวบ้านเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการเวนคืนที่ดินของประชาชน ซึ่งขณะนี้สิ่งปลูกสร้างเริ่มผุพังแต่ไม่กล้าที่จะซ่อมแซมหรือปรับปรุง หากดำเนินการไปแล้วมีการเวนคืนที่ดินชาวบ้านก็จะสูญเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ ส่วนกรณีที่นักเรียนไทยเป็นจำนวนมากต้องเดินทางไปเรียนหนังสือฝั่งประเทศมาเลเซียแบบไปเช้าเย็นกลับนั้น ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจรจาพูดคุยอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่จะมีการอนุโลมเฉพาะนักเรียนให้ข้ามแดนไปเรียนหนังสือได้ แต่เมื่อถึงวันดีคืนดีก็อาจจะถูกจับกุมได้ หากเจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งมาประจำตามช่องทางข้ามธรรมชาติมีการสับเปลี่ยนกำลัง ซึ่งในเรื่องดังกล่าว นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ปธ.คณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ได้กล่าวกับตัวแทนพี่น้องประชาชน พอสรุปใจความว่า ในเรื่องดังกล่าวนี้ตนได้เดินทางไปเข้าพบกับ ดาโต๊ะมูฮัมหมัด ยูโซ๊ะ ผู้การตำรวจรัฐกลันตัน เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ โยผู้การตำรวจรัฐกลันตัน ได้รับปากจะมีการอนุโลมให้เฉพาะนักเรียนไทยเดินทางข้ามแดนไปเรียนหนังสือที่ฝั่งประเทศมาเลเซียได้ โดยสามารถเดินทางข้ามตามช่องทางธรรมชาติได้ เป็นการแก้ไขปัญหาการศึกษาระหว่างไทยมาเลเซีย


ด้าน พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ได้เดินทางไปพบนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย เมื่อสัปดาห์ก่อนและได้มาสั่งการที่ประชุมว่า โครงการพัฒนาที่เราได้มีการตกลงกันไว้โดยเฉพาะที่ จ.นราธิวาส มีหลายโครงการท่านอยากให้มีการเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามแผน เนื่องจากด่านบูเก๊ะตาได้มีมติ ครม.ตั้งแต่ปี 59 ซึ่งขณะนี้มีการดำเนินการตามแผน โดยส่วนหนึ่งก็คือการเวนคืนที่ดินขณะนี้ทางจังหวัดได้เตรียมการไว้แล้ว 247 ไร่ มีการสำรวจเหลือแต่บ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างเขายอมรับจะมีการประเมินราคา เรามาติดตามบริหารให้เป็นไปตามขั้นตอน
นูอารีซ๊ะ ยะยือริ  รายงาน