20 ธันวาคม 2567 ที่ อาคารประชุมสำนักงานปศุสัตว์ บ้านเมวยวดี ต.เมยวดี อำเภอเมยวดี จ.ร้อยเอ็ด ดร.เอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน พระครูสมุห์สุริยา สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดศรีมงคล ฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย นางละอองเพชร พุฒิพิพัฒน์พาณิชย์ นายอำเภอเมยวดี นายเชวงศักดิ์ พลเยี่ยม ที่ปรึกษาฯ(อดีตผวจ.รอ.) นายบุญช่วย มหิวรรณ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอฯ พิธีมอบโค โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ โดยการดำเนินงานของ นายอำนาจ มะธิปิไข ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด นายวิชพล คำผา ปศุสัตว์อำเภอเมยวดี หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ 4 ตำบล คือ ต.ชุมพร เมยวดี ชมสะอาด และตำบลบุ่งเลิศ จำนวน 23 ครอบครัว
นายอำนาจ มะธิปิไข ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวรายงานว่า ในวันนี้โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการที่ พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริ ให้กรมปศุสัตว์จัดตั้ง โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกร ให้มีโค-กระบือไว้ใช้แรงงาน เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และเพื่อให้มีโค-กระบือเป็นของตนเอง โดยวิธีให้ยืมเพื่อการผลิต
ปัจจุบันโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ยังได้ประโยชน์ ช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้ว เฉพาะในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีเกษตรกรได้รับประโยชน์ไปแล้ว กว่า 36,000 ครอบครัว คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,044 ล้านบาบาท ซึ่งยังมีเกษตรกร ที่ยังอยู่ในความ ดูแลของโครงการฯ ในอำเภอเมยวดี มีจำนวน 287 ตัว คิดเป็นมูลค่า 7,749,000 บาท
และในวันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเมยวดี ได้จัดพิธีมอบโค โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ให้แก่พี่น้องเกษตรกรอำเภอเมยวดี จำนวน 23 ตัว เพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว
ดร.เอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เกษตรกรที่รับโคในวันนี้ผ่านการคัดเลือกของทางอำเภอฯที่มีคุณสมบัติพร้อม เป็นโครงการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีโคเป็นทรัพย์สินของตนเอง ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร มูลโคจะช่วยในการฟื้นฟูทรัพยากรดิน และสามารถจำหน่ายเป็นรายได้ทางหนึ่ง
สำหรับพี่น้องเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในวันนี้จำนวน 23 ครอบครัวยืมโค จำนวน 23 ตัว หากประเมินราคาโค ตัวละ 27,000 บาทคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 621,000 บาท จึงถือว่าโครงการนี้ เป็นโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนได้เป็นอย่างดี จึงขอให้ทุกท่านที่ได้โค ไปในวันนี้ได้ดูแลโคที่ยืมไปให้ดี ห้ามซื้อ-ชายภายในระยะเวลา 5 ปี เมื่อตกลูกและครบกำหนดทางราชการจะทำหนังสือมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ ทรัพย์สินของท่าน โคพระราชทานเหล่านี้เมื่อท่านดูแลเอาใจใส่ดี ท่านก็จะพบความสุข ความเจริญ อนึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เพิ่มช่องทางตลาดเนื้อโคไปต่างประเทศ เช่นจีน ซาอุดิอาระเบีย เราต้องผลิตให้มีคุณภาพ คือ ไร้สารเร่งเนื้อแดง เราจะมีตลาดโลกมีมูลค่าเพิ่มของช่องทางการเลี้ยงวัว
สมนึก บุญศรี รายงาน