ข่าว ร้อยเอ็ด ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเด่น

ผู้แทนพระองค์ ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ณ วัดท่าสะแบง จังหวัดร้อยเอ็ด

10 พฤศจิกายน 67 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลตรีหญิง ท่านผู้หญิงอรอนงค์ ปิยนาฏวชิรพัทธ์ เป็นผู้แทนพระองค์ไปถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้เชิญไปทอดถวายยังที่ชุมนุมสงฆ์ ณ วัดท่าสะแบง อำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเมื่อปี 2303 บริเวณป่าต้นตาลของชุมชน เดิมชื่อ “วัดตาล” ปัจจุบัน ที่ดินซึ่งใช้สร้างวัดแปลงดังกล่าว ได้ยกให้กับฝ่ายส่งน้ำกรมชลประทานทุ่งแซงบาดาล โดยเป็นที่ทำการของฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 โครงการชลประทานจังหวัดร้อยเอ็ด ต่อมาปี 2405 ได้จัดตั้งเป็นวัดในพระพุทธศาสนาและเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดตาลท่าสะแบง” พร้อมกับย้ายที่ตั้งวัดมาอยู่ในพื้นที่กลางบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านสะดวกต่อการประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี 2481 และเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดท่าสะแบง” ภายในวัดฯ มีเสนาสนะสำคัญ ประกอบด้วย อุโบสถ, ศาลาการเปรียญ, กุฏิสงฆ์ และวิหาร ปัจจุบันมีพระครูสุทธิวโรภาส เป็นเจ้าอาวาสวัดและรองเจ้าคณะอำเภอทุ่งเขาหลวง มีพระสงฆ์ จำพรรษา 14 รูป

จากนั้น เททองหล่อยอดพระเกศพระพุทธปิยนาฏวชิรพัทธ์ ซึ่งผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันจัดสร้างขึ้น เป็นพระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหู ออกแบบโดยสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ในรูปแบบศิลปะร่วมสมัย โดยจะอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วิหารวัดท่าสะแบง โอกาสนี้ ปลูกต้นพูนทรัพย์ จำนวน 1 ต้น ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ไว้เป็นที่ระลึก

ต่อจากนั้น ผู้แทนพระองค์ เชิญสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปมอบแก่ราษฎรอำเภอทุ่งเขาหลวง และอำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 50 คน พร้อมกับมอบกระเป๋านักเรียนและชุดเครื่องเขียนพระราชทานให้กับนักเรียนจากโรงเรียนในพื้นที่อำเภอธวัชบุรี จำนวน 459 คน ในการนี้ ได้ปล่อยปลาตะเพียนทอง จำนวน 33 ตัว และปล่อยปลาตะเพียน ปลาสวาย และปลาตะเพียนทอง ซึ่งกรมประมงจัดให้ จำนวน 50,000 ตัวลงในแม่น้ำชี เพื่อให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติต่อไป

ในตอนบ่าย ไปเยี่ยมชมสวนแม่หนูเพียรโคกหนองนาโมเดล ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี ซึ่งน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำการเกษตรแบบผสมผสานกับภูมิปัญญาพื้นบ้าน และเศรษฐกิจพอเพียง มีมณฑลทหารบกที่ 27 สนับสนุนการดำเนินงานด้านการเกษตรและปศุสัตว์ บนพื้นที่ 3 งาน มีการปลูกพืชผักกว่า 40 ชนิด เน้นการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ผลผลิตนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ จัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตร มีประชาชน นักเรียน และหัวหน้าส่วนราชการ เข้ามาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง

ส่วนโครงการแก้ไขปัญหาสภาพดินเค็มและพัฒนาพื้นที่ เพื่อสร้างความสุขให้แก่ประชาชนตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี เป็นโครงการแก้ไขปัญหาดินเค็มและน้ำเค็ม มีการตรวจสอบคุณภาพดินและน้ำ ขุดหนองกักเก็บน้ำและกดระดับน้ำเค็ม สร้างพื้นที่ป่าด้วยการปลูกป่า 5 ระดับ และจัดทำโครงการน้ำบาดาลเพื่ออุปโภคบริโภค มีประชาชนได้รับประโยชน์ 9 หมู่บ้าน

ด้านการส่งเสริมอาชีพ มีศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอธวัชบุรี เข้ามาส่งเสริมการทำตะกร้าจากเส้นพลาสติก หลักสูตรระยะสั้น 40 ชั่วโมง มีสมาชิกกลุ่ม 11 คน รวมทั้ง มีปราชญ์ชาวบ้าน เข้ามาสอนกระบวนการผลิตเกลือสินเธาว์ ซึ่งบ้านฝั่งแดง เป็นพื้นที่ดินเค็ม สามารถผลิตเกลือสินเธาว์ไว้บริโภคและจำหน่ายได้

โอกาสนี้ ปล่อยปลาบึก จำนวน 33 ตัว และปล่อยปลานิล ปลาตะเพียน ปลาสวาย และปลาบึก จำนวน 50,000 ตัว ลงในแหล่งน้ำโครงการฯ เพื่อให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำและแหล่งอาหารให้กับชุมชน

จากนั้น เชิญสิ่งของพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ประชาชนบ้านฝั่งแดง จำนวน 4 หลัง ซึ่งได้รับการสนับสนุนการซ่อมบ้านตามโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้แก่คนพิการ จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีมณฑลทหารบกที่ 27 และหน่วยงานเข้าที่เกี่ยวข้อง เข้าซ่อมแซมและสร้างบ้านให้กับประชาชนเพื่อให้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง

สมนึก บุญศรี รายงาน