นายวัชรินทร์ ฟ้าสิริพร นายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ผ่านมาส่งผลให้การท่องเที่ยวของเกาะเต่า ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์กลางอ่าวไทย ได้กลับมาฟื้นตัวบ้างถึงแม้จะไม่มากนัก แต่ก็พอที่จะทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวบนเกาะเต่า พอที่จะประกอบอาชีพอยู่ได้ ที่ผ่านมาในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก มีทั้งมาท่องเที่ยวดำน้ำเพื่อชมปะการังที่สวยงาม หรือขึ้นชมวิวบนเกาะนางยวนและชมดวงอาทิตย์ตกดิน(ตกน้ำทะเล)ที่หาดทรายขาวซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหาดที่สะอาดสวยงาม เหมาะแก่การนั่งชมหรือนอนดูดวงอาทิตย์ตกดินเป็นอย่างมาก มาประสบปัญหาช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 แต่พอสถานการณ์กลับเข้าสูjภาวะปกติทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆลักษณะคล้ายกับปี 61 แต่พอมาปี 65 นักท่องเที่ยวเริ่มขยับสูงขึ้นแต่ก็ยังไม่มากเนื่องจากพึ่งพ้นวิกฤตโควิด 19 แต่พอมาปี 67 สถานการณ์การท่องเที่ยวดีขึ้นมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา 4.9 แสนคน เมื่อสิ้นปลายปีคาดว่าจะไม่น้อยกว่า 6 แสนคน
อีกทั้งช่วงนี้ระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงโลซี่ซั่นของเกาะเต่า แต่ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาๆลงเรือที่ท่าเทียบเรือจังหวัดชุมพรเนื่องจากใกล้กว่าลงเรือมาจากสุราษฎร์ธานี มองถึงแนวทางของเกาะเต่าสถานการณ์การท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวยังคงทรงตัวมาโดยตลอดตั้งแต่เปิดการท่องเที่ยวใหม่(หลังโควิดระบาด)
แต่ที่น่าเป็นห่วงของเกาะเต่าคือเรื่องของน้ำ ไฟฟ้า มีปริมาณที่พอใช้ในอนาคต คิดว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวน่าจะดีกว่าทุกวันที่ผ่านมา เพราะกระแสไฟฟ้าผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องผลิตเอง ทำให้ต้นทุนการผลิตก็เพิ่มตามปริมาณที่ใช้ ส่วนพื้นที่กักเก็บน้ำก็ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมาทางกองทัพเรือได้นำน้ำมาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่