ผอ.โครงการชลประทานเชียงใหม่ ออกเตือนประชาชนลุ่มท้ายน้ำ ยกของขึ้นที่สูง ปัจจุบันต้นน้ำมีระดับน้ำลดลง ไม่มีฝนซ้ำ แต่น้ำที่มาจากเชียงดาวเข้าเชียงใหม่ ส่งผลให้น้ำสูงขึ้น ท้ายน้ำอาจจะได้รับผลกระทบ
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานีต้นน้ำปิงที่อำเภอเชียงดาว จุดวัด P.20 เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ระดับน้ำสูงสุด 3.50 เมตร ปัจจุบันลดเหลือ 2 เมตร ตอนนี้กลับมาอยู่ในลำน้ำแล้ว อัตราการไหลของน้ำ 153 ลบ.ม.ต่อวินาที แม้ว่าจะสูงอยู่ แต่ลักษณะภูมิประเทศของอำเภอเชียงดาวก่อนที่น้ำจะเข้ามาสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ จะมีช่องแคบที่บริเวณบ้านแม่อ้อ ตำบลแม่นะ จะทำให้น้ำค่อยๆ ไหลผ่านแก่งปันเต๊า เข้าสู่เมืองเชียงใหม่ อัตราการไหลจะช้า เหลือช่องประมาณ 80 เมตร
เช้านี้สถานีวัดที่อินทขีล อ.แม่แตง สถาน P.75 ระดับน้ำอยู่ที่ 4.22 เมตร อาจจะมีน้ำท่วมบ้างในพื้นที่ ต.อินทขีล อัตราการไหลของน้ำอยู่ที่ 185 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งโชคดีที่เมื่อคืนที่ผ่านมาในอำเภอแม่แตงไม่มีฝนตกมากนัก ทำให้อัตราการไหลของน้ำอยู่ที่ 115 ลบ.ม.ต่อวินาที เมื่อน้ำแม่แตงรวมกับน้ำแม่ปิง มาถึงที่ P.67 อำเภอสันทราย อัตราการไหลของน้ำอยู่ที่ 300 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำอยู่ที่ 2.75 อยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 2 เมตร จุดวัดที่ P.1 สะพานนวรัฐ ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 3.45 เมตร อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง โดยมวลน้ำจะไหลผ่านไปตามล้ำปิง ผ่านประตูระบายน้ำท่าวังตาล ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ขณะนี้ได้เปิดประตูระบายน้ำทั้งหมด 6 บาน เร่งระบายน้ำจากแม่น้ำปิงออกจากเขตเมืองเชียงใหม่ พื้นที่เศรษฐกิจต่างๆ ลงสู่ท้ายน้ำ
อยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำที่อยู่ท้ายแม่น้ำปิง ซึ่งมวลน้ำเช้านี้จะค่อยๆ สูงขึ้น อาจจะมีน้ำบางส่วนไหลลอดท่อระบายน้ำขึ้นมาท่วมบริเวณถนนสายต่างๆ ขอให้ระวังและเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงสำคัญ อย่างเช่น โซนที่ 1 ชุมชนป่าพร้าวนอก และโซน 2 ชุมชนหนองหอย บริเวณบ้านเมืองศาสตร์ และบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำปิง ขณะนี้เรายังมีเวลาอยู่ประมาณ 10 กว่าชั่วโมง หากมีของหนัก เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งของที่พอเก็บขึ้นที่สูงได้ ขอให้ท่านเก็บของขึ้นที่สูง หากเกิดเหตุการณ์มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง มีมวลน้ำเข้ามาสู่เชียงใหม่ มีระดับน้ำสูงขึ้น ทำให้ระดับน้ำเริ่มล้นตลิ่ง ก็จะทำให้ปลอดภัยมากขึ้นหากได้เคลื่อนย้ายสิ่งของหนักขึ้นที่สูงไว้ก่อนแล้ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำปิง
ปัจจุบันยืนยันว่าน้ำยังไม่ได้ล้นตลิ่ง ยังไม่ท่วม ซึ่งระดับน้ำยังอยู่ห่างจากจุดวิกฤติ 50 เซนติเมตร และมวลนน้ำที่เดินทางมาจากพื้นที่ตอนบน มาถึงจุดวัด P.1 สะพานนวรัฐ เพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 5 เซนติเมตร จากนั้นมวลน้ำจะผ่านไปยังประตูระบายน้ำและฝายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝายแม่ปิงเก่า ฝายดอยน้อย ฝายวังปาน และประตูระบายน้ำตัวสุดท้ายที่ประตูระบายน้ำแม่สอย ซึ่งทุกประตูระบายน้ำปัจจุบันได้ยกบานพ้นน้ำทุกประตู เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบดอยเต่า ขณะนี้ยังอยู่ในระดับเฝ้าระวังอยู่ แต่ขณะนี้เป็นการแจ้งเตือน หากระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงถึงระดับ 3.50 – 3.70 เมตร ก็จะมีน้ำเริ่มผุดจากท่อระบายน้ำ เข้าไปท่วมในบางพื้นที่ของพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และเป็นการเฝ้าระวัง ลดผลกระทบ ในพื้นที่ลุ่มต่ำก็ควรเก็บของบางส่วนขึ้นพื้นที่สูง ประชาชนสามารถดูระดับน้ำผ่านออนไลน์ได้ที่ http://hydro-1.rid.go.th/.