จากกรณีเมื่อ 18 กันยายน 67 วัดทันสมัยพัฒนาราม หมู่ 15 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้จัดงานบุญ โยนข้าวสากให้กับบรรพบุรุษและวิญญาณที่ไร้ญาติ ซึ่ง 1 ปีจะมี 1 ครั้ง ตรงกับ 15 ค่ำ ใกล้เดือน 10 ที่ชาวไทยเชื้ออีสานจะนำอาหารแห้งมาถวายเพลที่วัด และทำบุญให้กับวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว โดยจะนำข้าวเหนียวนึ่งสุกห่อใบตอง ปลาย่าง น้ำพริก มาที่วัด เนื่องจากเป็นวันสำคัญที่ชาวไทยอีสาน เรียกว่าทำบุญโยนข้าวสาก จะโดนชาวบ้านแกนำข้าวเหนียวที่ห่อใบตองไปไว้ตามพุ่มไม้ ให้กับศพที่ไร้ญาติหากนำไปโยนที่นาข้าวจะทำให้นาข้าวได้ผลผลิตสมบูรณ์ ซึ่งเป็นไปตามประเพณีของชาวอีสาน หลังจากดูหน้ากูจะชาวบ้านจะนำอาหารแห้งหรือข้าวเหนียวไปโยนให้กับวิญญาณที่เข้ามาภายในวัดไม่ได้และไปเลี้ยงให้กับคุณยายตามเจดีย์
ล่าสุดวานนี้ (19 กันยายน) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดดังกล่าว ได้มีพระคชรพล ฐิตธัมโม อายุ 63 ปี เจ้าอาวาสวัดทันสมัยพัฒนาราม ได้เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนออกไปบิณฑบาต ตัวพระเองได้เดินมาที่บริเวณเจดีย์ พี่ชาวบ้านได้นำสำรับมาให้กับวิญญาณที่สถิตอยู่บริเวณเจดีย์ อาตมาเองเอะใจและแปลกใจว่าทำไมอาหารในสำรับยังอยู่เป็นระเบียบ โดยไม่มีหมาเข้ามาทานหรือมาคาบแย่งกินไป จนเริ่มแปลกใจช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็มีหมาหอนทั้งคืนแถวบริเวณหน้าประตูเมรุ ตั้งแต่อาตมามาเป็นเจ้าอาวาสที่นี่ ก็เจอแต่เรื่องแปลกๆภายในวัดแห่งนี้
ล่าสุดกลับมาจากบิณฑบาต ก็ยังเห็นอาหารยังอยู่ครบทุกเจดีย์ โดยไม่มีมดมาไต่มาตอม ทั้งๆที่มีปลาดุกย่าง กุ้ง และขนมคาวหวาน รวมทั้งนมที่ชาวบ้านเทไว้ จึงได้หยิบมือถือถ่ายคลิปไว้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่แปลก ทั้งๆภายในวัดก็มีหมาเยอะ ว่าทำไมหมาไม่มาคาบกินเลยจนได้ไปตามชาวบ้าน ให้มาดูภายในวัด พร้อมกับชาวบ้านก็แปลกใจ ว่าปกติหมาจะต้องกินอาหาร ปกติชาวบ้านโยนไก่ให้หมายังแย่งกันกินแต่นี่เป็นเรื่องที่แปลก ชาวบ้านเชื่อว่าวิญญาณน่าจะบังตาไม่ให้หมาเห็นและได้กลิ่นจนทำไม่ให้หมาเข้ามาห้ามกินสำรับอาหารที่ชาวบ้านทำบุญให้กับวิญญาณดังกล่าว
พร้อมกับสอบถามกับชาวบ้าน ที่เดินทางมาดูภายในวัด ซึ่งรู้สึกแปลกใจเหมือนกัน ว่าทำไมหมาถึงไม่มาคาบอาหารที่ชาวบ้านทำบุญให้กับวิญญาณไปกินแม้แต่น้อย ทั้งๆภายในวัดก็มีหมาเยอะ พร้อมกับเดินไปดูที่บรรจุกกระดูกที่เจดีย์ กับข้าวในสำรับก็อยู่เหมือนเดิม โดยไม่มีมดมาไต่มาตอมพร้อมกับนมที่ชาวบ้านนำมาให้กับวิญญาณก็เหลือเหมือนเดิม เชื่อว่าในครั้งนี้วิญญาณน่าจะบังตาไม่ให้หมาเข้ามาคาบอาหารไปกิน และเป็นอะไรที่แปลกในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นความเชื่อของชาวไทยอีสานที่มีมาแต่ก่อน
สำเนา ทองศรี รายงาน