พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.2 รรท.ผกก.ตม.จว.จันทบุรี, พ.ต.ท.ศวัส โชติรณพัส รอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี มอบหมายให้ พ.ต.ท.นิพนธ์ เรืองสม สว.ตม.จว.จันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.จันทบุรี สืบสวนหาข่าว และออกตรวจบนถนนเส้นหลักเส้นรองเพื่อสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 เวลา 02.00 น. ได้ดำเนินการจับกุมคนไทยและบุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา บริเวณริมถนนสายสุขุมวิท ใกล้ พีเอ อลูมินั่ม จันทบุรี ต.แสลง อ.เมืองจันทบุรี จว.จันทบุรี จากการที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบรถตู้โดยสาร ลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย จึงได้แสดงสัญญาณไฟเพื่อขอตรวจสอบ แต่รถตู้คันดังกล่าวได้พยามหลบหนี และต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถควบคุมรถตู้คันดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบ นายฉัตรชัย อายุ 43 ปี สัญชาติไทย เป็นผู้ขับรถ มีชาวกัมพูชา 12 คนโดยสารมาด้วย แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา 4 ราย ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง
จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายฉัตรชัย ว่า “ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม”พร้อมทั้งยึดรถตู้โดยสารไว้เป็นของกลาง และได้เเจ้งข้อกล่าวหากับคนชาวกัมพูชา 4 คน ว่า “เป็นบุคคลต่างด้าว(สัญชาติกัมพูชา)เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
คนกัมพูชาทั้ง 4 คน ให้การรับสารภาพว่า พวกตนได้ลักลอบเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อไปหางานทำในพื้นที่ชั้นใน ต่อมามีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับบ้านที่ประเทศกัมพูชา จึงได้ว่าจ้างนายฉัตรชัย เป็นเงิน 1,100 บาท ให้ไปรับที่ จว.ชลบุรี เพื่อไปส่งที่ อ.โป่งน้ำร้อน จว.จันทบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ถูกจับกุมพร้อมรถยนต์ของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรีเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 ได้สั่งกำชับให้ ตม.จว.จันทบุรี เพิ่มความเข้มงวดกวดขันตรวจสอบบุคคลต่างด้าวในพื้นที่ และพื้นที่ตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ได้เน้นย้ำนโยบายในการป้องกันปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ กวาดล้างคนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ต่อไป