14 สิงหาคม 2567 ที่ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานการประชุมสภาติดตามรายงานการเสนอร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี โดยมีสมาชิกสภาฯ คณะกรรมการตรวจติดตามผลงบประมาณรายจ่ายประจำปี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เข้าร่วม
สำหรับในที่ประชุมนายยุทธนา แสงพงศานนท์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี รักษาราชการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้ชี้แจงเรื่อง รายงานการเสนอร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ไม่ทันภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ให้สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีทราบ เนื่องจากต้องรอนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อกำหนดนโยบายให้เป็นไปตามที่หาเสียงต่อประชาชน
นายยุทธนา แสงพงศานนท์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี รักษาราชการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากนายก อบจ.ที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน อาจจะได้รับรองจากทาง กกต. เพื่อที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดนโยบายและแผนงานที่ถูกต้องครบถ้วนตามที่แถลงต่อสภาฯ เพื่อให้การตั้งงบประมาณได้สนองตามความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะนายกฯเป็นผู้หาเสียงต่อประชาชน และท่านต้องนำนโยบายนั้นเข้ามาจัดทำงบประมาณ ผมเป็นเพียงผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเท่าที่จำเป็นเป็นการชั่วคราวเท่านั้น จึงไม่อาจจะตัดสินใจที่จะกำหนดนโยบายหรือแผนงานต่างๆ ได้ จึงเป็นหน้าที่ของนายกผู้ที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้กระทำเอง ผมเพียงทำหน้าที่ชั่วคราวเท่านั้น คาดว่าอีกไม่กี่วันทาง กกต.จะต้องประกาศผลรับรองแน่นอน
นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ประธานสภา อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ในระเบียบวาระที่ 15 ในที่ประชุมสภาฯวันนี้นั้น ทางท่านปลัด อบจ.ปทุมธานี รักษาราชการนายก อบจ.ปทุมธานี ได้เสนอเรื่องเข้ามาว่า เสนองบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ไม่ทันภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ตามระเบียบข้อบังคับวิธีการจัดทำงบประมาณ โดยผมได้เปิดประชุมสภาฯเพื่อที่จะแจ้งต่อท่านสมาชิกฯ ได้ทราบ ทั้งนี้ท่านสมาชิกฯก็มีความกังวลและเป็นห่วง เรื่องการทำงบประมาณไม่ทันสิ้นปีงบประมาณ คือวันที่ 30 กันยายน 2567 จะก่อให้เกิดความเสียใยให้กับชาวปทุมธานี ในการใช้งบประมาณในปี 2568 และงบประมาณในปี 2567 ที่ตั้งไว้ 1,750 ล้านบาท ขณะนี้มีเงินเกินมา 300 กว่าล้านบาท จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำงบประมาณในส่วนของ 300 กว่าล้านนี้เพื่อบรรจุไปในข้อบัญญัติของงบประมาณปี 2567 หรือเรียกว่างบเพิ่มเติมอีก 300 กว่าล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ซึ่งรักษาราชการนายก อบจ.ปทุมธานี ดำเนินการไม่ทัน และได้ให้คำตอบกับสภาฯ ว่าให้รอนโยบายผู้บริหารใหม่ เข้ามาดำเนินการทำงานในการปฏิบัติหน้าที่ ใน อบจ.ปทุมธานี ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวันที่เท่าไร ทางรักษาราชการนายก อบจ.ปทุมธานี ก็ไม่ได้กำหนดระยะเวลามาเป็นที่แน่นอนว่าจะวันที่เท่าไร เพียงแต่บอกว่าดำเนินการได้ไม่ทัน เนื่องจากรอผู้บริหารใหม่เท่านั้นเอง ผมในฐานะประธานสภา อบจ.ปทุมธานี เคยได้เรียกประชุมคณะกรรมการตรวจติดตามผลงบประมาณรายจ่ายประจำปี และได้ตามเรื่องนี้ไปแล้ว และวันนี้ทางท่านสมาชิกฯ มีความเป็นห่วง ได้สอบถามในที่ประชุมเป็นการอภิปรายเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างครบถ้วนสมบูรณ์เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนเกิดความเสียหายในการปฏิบัติงานของ อบจ.ปทุมธานีของเรา.
สญชัย คล้ายแก้ว รายงาน
