ข่าว ร้อยเอ็ด ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเด่น

เครือข่าย ป.ป.ช.ร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ตรวจสอบการทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูล 2 แห่ง ในที่ดินสาธารณะประโยชน์ตำบลเมืองบัว  

ดร.อุปกรณ์ ดีเสมอ ประธานเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดร้อยเอ็ด มอบหมายให้ นายยงพันธ์ พันธ์ดงยาง รองประธานเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดร้อยเอ็ดและคณะ พร้อมด้วย ผู้นำต้นแบบเครือข่าย ป.ป.ช. ภาคประชาสังคม อ.เกษตรวิสัย ลงพื้นที่ตรวจสอบการทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูล 2 แห่ง ในที่ดินสาธารณะประโยชน์ ตำบลเมืองบัว อำเภอเกษตรวิสัย ที่ส่งผลทำให้เกิดความสกปรกสร้างมลพิษลงในแหล่งน้ำสาธารณะใกล้เคียง ส่งกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ชาวบ้านหวั่นขยะอันตรายและแพร่เชื้อโรค

นายยงพันธ์ พันธ์ดงยาง รองประธานเครือข่าย ป.ป.ช.ภาคประชาสังคมจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พร้อมคณะกรรมการฯ ทำให้ทราบว่า ขยะทั้งหมดเป็นขยะที่ชาวบ้านนำมาทิ้งไว้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการห้ามปรามจากเจ้าของพื้นที่คือ เทศบาลตำบลเมืองบัว ทำให้เสมือนว่า มีการอนุญาตโดยทางเทศบาลแล้ว จึงทำให้ประชาชนมีได้นำขยะมาทิ้งอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกัน ทางเทศบาลตำบลเมืองบัวเจ้าของพื้นที่ก็ไม่ได้มีการกำจัดขยะอย่างถูกวิธีตามหลักวิชาการ ทำให้มีปริมาณขยะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน โดยเมื่อชาวบ้านนำมาเทกองไว้ หรือใส่ถุงกระสอบมาทิ้งไว้ ก็จะทำให้ขยะที่มีมวลเบา ถูกลมพัดเกิดปลิวกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ตามป่ายูคาลิปตัสและปลิวลงแหล่งน้ำสาธารณะพื้นที่ติดกัน ส่วนขยะหนักและขยะเปียกก็จะถูกน้ำฝนตกหมักไว้ส่งกลิ่นเน่าเหม็น ไม่พึงประสงค์ และขยะมีปริมาณมากขึ้นทุกวัน ขณะนี้ก็น่าจะมีจำนวนหลายตัน อาจจะทำให้ยากแก่การกำจัด บางส่วนก็มีการเผาแต่ยังคงเป็นส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณขยะทั้งหมด และถ้าเมื่อเผาในปริมาณมากๆ อาจส่งกลิ่นเหม็นและกลิ่นควันไปกระทบกับการเรียนของน้องๆนักเรียน เนื่องจากมีสถานศึกษาอยู่ใกล้ๆกับพื้นที่ทิ้งขยะ อีกด้วย


นายยงพันธ์ฯ กล่าวอีกว่า จากกรณีดังกล่าว คณะกรรมการฯ ได้มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ามีการทิ้งขยะจริง ตามที่ได้รับร้องเรียน และไม่มีระบบการกำจัดขยะตามหลักวิชาการ จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดเจ้าของพื้นที่ คือเทศบาลตำบลเมืองบัว เข้ามาบริหารจัดการขยะโดยเร่งด่วน ก่อนทีจะมีการกำจัดที่ยุ่งยากและใช้งบประมาณมาก หรืออาจจะให้หน่วยงานระดับที่สูงกว่าเข้ามาดูแลการกำจัดขยะให้ และอาจจะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคดังที่ชาวบ้านหวาดวิตกก็ได้ ซึ่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. เครือข่ายประชาสัมคมจังหวัดร้อยเอ็ด ไม่ได้มาจับผิดหน่วยงานใดหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ หลังจากที่ คณะกรรมการฯ ได้รับข้อมูลครบถ้วน ก็จะได้รายงานผลให้กับ ทาง กองทุน ป.ป.ช. และ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ตามลำดับ ต่อไป

สมนึก บุญศรี  รายงาน