ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวร้องเรียน ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเชียงใหม่ ข่าวเด่น ทุกข์ร้อนชาวบ้าน นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

(มีคลิป) “วันพระสงฆ์” อาสาฬหบูชาชาวบ้านร้องขอ “สร้างวัด” เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ ที่สำนักปฏิบัติธรรมร่มธรรมเด่นชัยมงคล บ.ทุ่งข้าวตอกใหม่ รวมตัวหนุนสร้างวัด หลังมีผู้ร้องเรียนคัดค้าน

“วันพระสงฆ์” ชาวบ้านร้องขอ “สร้างวัด” เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ ที่สำนักปฏิบัติธรรมร่มธรรมเด่นชัยมงคล บ.ทุ่งข้าวตอกใหม่ รวมตัวหนุนสร้างวัด หลังมีผู้ร้องเรียนคัดค้าน

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 เวลา 07.00 น. ที่สำนักปฏิบัติธรรมร่มธรรมเด่นชัยมงคล หมู่ที่ 8 บ้านทุ่งข้าวตอกใหม่ ต.ทุ่งข้าวตอก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นายเสน่ห์ วิริยา ตัวแทนกลุ่มพุทธศาสนิกชน ชาวบ้านหมู่ที่ 8 บ้านทุ่งข้าวตอกใหม่ พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนชาวบ้าน 100 กว่าคน ชูป้ายวอนสื่อ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยเหลือ พร้อมสนับสนุนและข่วยเหลือ กรณีกลุ่มชาวบ้านเสนอให้สำนักปฏิบัติธรรมร่มธรรมเด่นชัยมงคลแห่งนี้เป็น “วัด” เพื่อใช้ เป็นสาธารณะประโยชน์ และประกอบกิจกรรมศาสนกิจ ทางพระพุทธศาสนา

นายเสน่ห์ วิริยา เปิดเผยว่า สถานที่แห่งนี้เคยเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนบ้านร้องเม็ง หรือ สถานีอนามัยตำบลหนองแหย่งเดิม ได้ขอใช้พื้นที่
สาธารณะประโยชน์ ที่อยู่ในความดูแลรักษา จำนวน 1 แปลง เพื่อจะนำมาก่อสร้างเป็นสถานีอนามัย ต.หนองแหย่ง พื้นที่ 6 ไร่ 61 ตารางวา ได้รับอนุญาตให้ดูแลรับผิดชอบมาตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 42 แต่ข้อเท็จจริง สถานีอนามัยไม่ได้เข้าใช้ประโยชน์ ได้ปล่อยทิ้งไว้ ผ่านมายี่สิบกว่าปี ไม่มีมีผู้ดูแล และชาวบ้านหมู่ที่ 8 เป็นหมู่บ้านใหม่ ที่แยกมาจากหมู่ที่ 4 เดิม เมื่อปี 2523 เนื่องจากจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น เมื่อแยกหมู่บ้านจัดตั้งขึ้นมาใหม่ ชาวบ้านไม่มีที่สาธารณะที่ส่วนกลางสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ในบางปีได้รับจัดสรรงบประมาณมาจากทางหน่วยงานราชการหรือเป็นเงินบริจาคจากชาวบ้านรวบรวมเงินกันเอง ก็ได้ก่อสร้างอาคารต่างๆ เพื่อใช้ประโยชน์ส่วนรวม ร่วมกัน ในที่ดินแปลงดังกล่าวได้แก่ หอถังน้ำประปาหมู่บ้าน 2 แห่ง ก่อสร้างจากงบประมาณ กรมทรัพยากรน้ำ และงบประมาณของเทศบาลตำบลหนองแหย่ง มอบให้หมู่บ้านบริหารจัดการ ให้บริการน้ำประปาแก่ราษฎร จัดสร้างโรงน้ำดื่มของหมู่บ้านขึ้น มอบให้เอกชนเข้ามาดำเนินการ เก็บค่าเช่าให้กับทางหมู่บ้าน, สร้างอาคารศูนย์การศึกษานอกโรงเป็นประจำตำบลหนองแหย่ง (เดิมเป็นอาคารศูนย์เด็กเล็กที่ชาวบ้านสร้างขึ้น ประมาณ ปี พ.ศ. 2530 ต่อมา กศน. มาขอใช้ จนถึงปัจจุบัน) สร้างอาคารศาลาเก็บของ ของหมู่บ้าน, สร้างอาคารศาลาเอนกประสงค์ของหมู่บ้านโดยใช้งบประมาณ SME ของหมู่บ้าน ใช้เป็นศาลาประชาคม ใช้เป็นสถานที่ประชุมของหมู่บ้าน และบางครั้ง ใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศลศพ กรณีคนในหมู่บ้านเสียชีวิตลง แต่ก็คับแคบมาก, สร้างอาคารตู้ยาม ชรบ. ใช้เป็นสถานที่ทำงานของชรบ.และรักษาความปลอดภัย ของหมู่บ้าน, ป้ายหมู่บ้าน จำนวน 2 ป้าย ก่อสร้างโดยงบประมาณของหมู่บ้าน และระบบไฟฟ้า

นายเสน่ห์ วิริยา เปิดเผยต่อไปอีกว่า อาคารที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นอาคารที่มีโครงสร้างการก่อสร้าง แทบจะถาวรทั้งสิ้น แต่อาคารสิ่งก่อสร้างทุกหลัง ก็ไม่ได้ขออนุญาต และไม่ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการทั้งสิ้น ซึ่งทุกอาคารสิ่งก่อสร้างนี้ ล้วนแต่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชาวบ้านหมู่ที่ 8 ทั้งสิ้น

ในส่วนอาคารที่ชาวบ้านร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อก่อสร้างเป็นศาลาเอนกประสงค์ ที่ถูกร้องเรียนหลังนี้ ก่อสร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชาวบ้าน จากเงินบริจาค เพื่อให้ใช้ประโยชน์ในทางพระพุทธศาสนา “สำนักสงฆ์” เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านจิตใจ และด้านสุขภาพจิต สุขภาพกายนี้ ทางชาวบ้าน โดยได้มีการประชุมประชาคมหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2563 รวมทั้ง ได้เรียนเชิญ นายเสน่ห์ คนขยัน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนร้องเม็ง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ขอใช้พื้นที่มาแต่เดิม และเป็นผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่เข้าร่วมประชุมด้วย ในการประชุมดังกล่าว มีชาวบ้านเข้าร่วมประชุมนับร้อยคน ในเนื้อหาวาระประชาคมนั้น ขอใช้ที่ราชพัสดุเพื่อสร้างศาลาสถานปฏิบัติธรรม และทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ของชุมชมชนหมู่ 8 และ
ชุมชนหมู่บ้านอื่นๆ โดยเนื้อหาของกิจกรรมนั้นจะเน้นในเรื่องของผู้ป่วยพักฟื้น ดูแลผู้สูงอายุ เป็นสถานปฏิบัติธรรมของผู้สูงอายุและประชาชนทั่วไป โดยมติที่ประชาคมมีการเห็นด้วยในการสร้าง

ในส่วนเรื่องที่ว่าทำเรื่องขออนุญาตภายหลังนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากในการประชุม นายเสน่ห์ คนขยัน ก็อยู่ในที่ประชุม รับรู้รับทราบมาโดยตลอด รวมทั้งก่อนหน้านั้น ข้าพเจ้าและตัวแทนชาวบ้าน ก็ได้เดินทางขออนุญาตด้วยวาจา ต่อนายเสน่ห์ คนขยัน รวมทั้งแจ้งให้ทราบว่า ชาวบ้านจะดำเนินการขอให้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนช่วยทำโครงการและแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องต่อไป

และชาวบ้านทุกคนที่เข้าร่วมประชุม ต่างมีความปิติยินดี ที่หมู่บ้านจะได้มีสถานที่ทำกิจกรรม ส่วนกลางโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านพระพุทธศาสนา และ นายเสน่ห์ คนขยัน ก็ได้รับทราบถึงวัตถุประสงค์และความต้องการของชาวบ้านเป็นอย่างดี และไม่ได้มีการทักท้วงแต่ประการใดทั้งสิ้น ทั้งนี้ในที่ประชุม ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ได้มีมติเห็นสมควรที่จะได้ไปนิมนต์ พระวิชัย ชัยมังคโล พระสงฆ์ ผู้ที่มีผลงานดีเด่นด้านการพัฒนาชุมชน จนได้รับปริญญามหาบัณฑิตฑิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สาขาขาพัฒนาชุมชน และเป็นประธานกองทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลสันทราย สร้างศูนย์ผู้ป่วยอัมพฤตอัมพาตวัดหัวยเกี๋ยงฯลฯ ได้มาเป็นผู้นำในการก่อสร้างศาลาเอกนกประสงค์ดังกล่าว และนำทำกิจกรรมด้านพุทธศาสนาส่งเสริมด้านจิตใจ ความสามัคคีในชุมชน ตามวัตถุประสงค์ ต่อไป

นายเสน่ห์ วิริยา กล่าวต่อไปอีกว่า การก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ หลังนี้ ในการก่อสร้างทั้งหมด ไม่ได้ใช้เงินงบประมาณของทางราชการเลย ชาวบ้านได้ช่วยกันบริจาครับเป็นเจ้าภาพทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ หิน ทราย ปูน รวมและเงินบริจาคจากศิษย์ญาญศิษย์ของพระวิชัย ชัยมังคโล ที่ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับส่วนรวมและสังคม ที่สำคัญที่สุดคือ แรงงานที่ก่อสร้างล้วนแต่เป็นชาวบ้านได้ช่วยกันทั้งสิ้น และ สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ มีผู้สูงอายุในชุมชน หมู่ที่ 8 และใกล้เคียง ได้มาสวดมนต์ ปฏิบัติธรรรม ณ ศาลาแห่งนี้ทุกค่ำคืน รวมทั้งพระวิชัย ชัยมังคโล ได้เทศนาธรรม อบรมหลักธรรมการดำรงชีวิตให้กับพุทธศาสนิกชนอย่างต่อเนื่อง ตลอดมา ซึ่งนับวันจะมีลูกศิษย์ ศรัทธา ประชาชน ชาวบ้าน ต่างเดินทางมาทำบุญ และร่วมปฏิบัติธรรม อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้มีเจ้าหน้าที่ ฝ่ายส่งเสริมสุขภาพอนามัยจากโรงพยาบาลสันทราย ได้มาให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรในการรักษา การนวดแผนไทย เป็นต้น และมีผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยเช่น ปวดกล้ามเนื้อ แข้ง ขา ได้เข้ามารับการรักษาจากเจ้าหน้าที่อนามัย ตลอดมา ซึ่งยังได้มีผู้หลักผู้ใหญ่ ได้เข้ามาเยี่ยมชม และมาร่วมทำบุญ มาร่วมทำกิจกรรม กับพี่น้องชาวบ้าน สร้างความสุข ความภาคภูมิใจมาสู่ชุมชนฯลฯ อาทิเช่น ท่านอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, ท่านอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงาน ภาค 1, ท่านนายอำเภอสันทราย, ท่านอดีตสาธารณสุขอำเภอสันทราย ผู้ขอใช้พื้นที่ ปัจจุบันเป็นสาธารณสุขอำเภอเมืองเชียงใหม่ ท่านกำนัน ท่าน สท. ท่านนายกเทศมนตรีเมืองแม่โจ้ ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน ได้เข้ามาอยู่ตลอดเวลา

และในส่วนการขออนุญาตใช้พื้นที่นั้นในปัจจุบัน หน่วยงานที่ขอใช้พื้นที่เดิม คือ สถานีอนามัยตำบลหนองแหย่ง หรือ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนร้องเม็ง ( ปัจจุบัน ) ได้ส่งคืนพื้นที่ดังกล่าวให้กับกรมธนารักษ์เชียงใหม่ เนื่องจากไม่ได้ก่อสร้างอาคารตามวัตถุประสงค์การขอใช้ที่ดินครั้งแรก และไม่ได้เข้าใช้ประโยชน์ดังกล่าวตลอดมา

และเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 ผมนายเสน่ห์ วิริยา ในฐานะตัวแทนของชาวบ้าน ได้ยื่นรายงานขอใช้ที่ดิน ซึ่งเป็นที่ดิน ราชพัสดุ ที่อยู่ในความดูแลของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ที่บ้านทุ่งข้าวตอกใหม่ แปลงนี้ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอสร้างเป็นวัด ศาสนสถานทางพระพุทธศาสนา โดยมีนายสมบูรณ์ คิดจักร ผู้ใหญ่บ้าน ให้การรับรอง นายดวงเลิศ กาวิละ คณะกรรมการฯ ให้การรับรอง และ นายสมบูรณ์ มุ้ยแบ่ง คณะกรรมการฯ ให้การรับรอง ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการและในการขอใช้พื้นที่แปลงดังกล่าวเพื่อก่อสร้าง “วัด” หรือ “สถานปฏิบัติธรรม” ได้เสนอผ่านความเห็นชอบจากผู้เกี่ยวข้องต่างๆ โดยได้เสนอความเห็นชอบแก่เจ้าคณะตำบลหนองแหย่ง ท่านพระครูโกวิทย์ ธรรมโส เสนอความเห็นชอบต่อท่านพระครูโกศล ธรรมวิจัย เจ้าคณะอำเภอสันทราย เสนอความเห็นชอบ นายศิวะ ธมิกานนท์ นายอำเภอสันทราย ในคณะนั้น โดยนายอำเภอลงความเห็นไม่มีเหตุข้ดข้อง ตามพ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่ืและเป็นการส่งเสริม
พระพุทธศาสนา” และเสนอความเห็นชอบต่อพระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ โดยเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่เห็นสมควร รายการนี้ ยังได้มีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายได้เป็นสำนักปฏิบัติธรรม เพื่อเป็นสถานที่สงบสัปปายะ เหมาะสมกับการให้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่งจึงมอบหมายให้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมเพื่ออบรมกรรมฐานแก่อุบาสิกอุบาสิกา และสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาต่อไป ให้ไว้ ณ วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ 2557

นายเสน่ห์ วิริยา กล่าวในตอนท้ายว่าประเด็นการร้องเรียนในวันนี้ ที่ผมได้ยกประเด็นเล่าเรื่องราว และอธิบายที่ไปที่มา ทุกอย่าง ทุกขั้นตอน ล้วนไม่ได้ดำเนินการโดยพละการ ได้มีการปรึกษาหารือ ขอคำแนะนำ ขออนุญาต จากทุกๆฝ่ายมาโดยตลอด มีการประชุม ประชาคมหมู่บ้าน แต่ฝ่ายที่ร้องเรียนคัดค้านกับไม่ให้ความสำคัญของประชาคมครั้งนี้ และชาวบ้านได้มีการเสียสละทั้งทุนทรัพย์ กำลังกายกำลังใจ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งยึดเหนี่ยวในจิตใจของคนในหมู่บ้าน เพื่อจะได้มีศูนย์รวมใจ มีสถานที่จัดกิจกรรมของหมู่บ้าน การสร้างสถานปฏิบัติธรรมนี้ ต่างปีติยินดี ความสุขใจ สุขกาย เป็น
ประโยชน์ต่อชุมชน ต่อสังคม และต่อพระพุทธศาสนา

จึงไม่น่าเชื่อว่า จะมีการร้องเรียนไปทุกที่ ทุกหน่วยงาน มีการขัดขวางการพัฒนาเพื่อส่วนรวม เพื่อสังคม ทั้งๆ ที่มีมติเป็นเอกฉันท์จากการประชุมประชาคมของชาวบ้าน ทั้งนี้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และร้องขอให้ทางเทศบาลตำบลหนองแหย่ง ช่วยนำเรื่องนี้เข้าประชุมสภาเพื่อผลักดันให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่สาธารณประโยชน์ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เพื่อช่วยสนับสนุนให้ชาวบ้านหมู่ที่ 8 บ้านทุ่งข้าวตอกใหม่ ต.ทุ่งข้าวตอก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้มี “วัด” หรือ “สถานที่ปฏิบัติธรรม” เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจ มีสถานที่ทำกิจกรรม ต่อการพัฒนาท้องถิ่น ตำบลหนองแหย่ง ของเราต่อไป นายเสน่ห์กล่าวในตอนท้าย.