ฝ่ายบริหาร IFEC แจ้งความดำเนินคดี 2 กรรมการกับพวก ฐานร่วมกันบุกรุกเข้าสำนักงานIFEC ทั้งที่ไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงาน สร้างความความเสียหายต่อทรัพย์สินบริษัท และทรัพย์สินส่วนตัวของพนักงาน
วันที่ 1 ตุลาคม นายประสิทธิ์ วงศาสวัสดิ์ ทนายความบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเฟค(IFEC) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่24 กันยายน 2561 กรรมการ บริษัท ไอเฟค 2 คนนำพาพรรคพวกประกอบด้วย ชายฉกรรจ์ และกลุ่มบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยสั่งการให้งัดประตูเข้าไปที่ทำการบริษัท ชั้นที่ 29 ของอาคารเดอะไนน์ พระรามเก้า หลังจากเข้าไปในสำนักงานได้ทำลายสิ่งกีดขวาง เช่นกุญแจล็อคประตูห้อง ตัดสายไฟเพื่อทำลายการบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมให้ชายฉกรรจ์ 2 คน ยืนเฝ้าทางเข้าออกบริษัท เหตุการณ์ดังกล่าวทาง IFEC ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง
นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่กรรมการทั้ง 2 คนกล่าวอ้าง ว่าต้องการเข้ามาบริหารงานในบริษัทหลังจากที่ออกคำสั่งปลดรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปของบริษัท และแต่งตั้งตัวเองซึ่งเป็นกรรมการอิสระขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รวมทั้งแต่งตั้งบุคคลอื่นเป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ขอยืนยันว่า กรรมการทั้งสอง ได้พ้นสภาพการเป็นกรรมการแล้ว ซึ่งบริษัทได้แจ้งต่อก.ล.ต.เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา เนื่องจากการกระทำของกรรมการดังกล่าว ขัดต่อประกาศ ตลท. เรื่องกรรมการที่กำหนด ว่า ต้องไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการที่มีส่วนร่วมบริหารงาน ดังนั้นเมื่อกรรมการทั้ง 2 คน ออกคำสั่งปลดพนักงานประจำ และแต่งตั้งตัวเองเข้ามาบริหารงาน จึงเท่ากับขาดคุณสมบัติความเป็นกรรมการทันที ตามพ.ร.บ.บริษัท จำกัด (มหาชน)
ดังนั้นกรรมการทั้ง 2 คนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับ บริษัทแล้ว การพาพวกบุกเข้ามาทำลายทรัพย์สิน ทำให้บริษัทต้องไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ส่วนกรรมการที่พ้นสภาพไปแล้วยังให้ข่าวกับสื่อบางสำนักว่า บริษัท IFEC ย้ายสำนักงานไม่เป็นไปตามกฎหมาย เพราะไม่แจ้งให้ ก.ล.ต.รับทราบ ซึรงเป็นเรื่องเท็จ ข้อเท็จจริงคือ บริษัท IFEC ได้ขยับขยายพนักงาน E&M มาอยู่ที่อาคาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ แคป แมเนจเม้นท์ จำกัด (ICAP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ของไอเฟคมานานแล้วเนื่องจากมีพนักงานเพิ่มขึ้น ต่อมาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 พบว่ามีการทำลายระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัท โดยกรรมการทั้งสอง และกรรมการของบริษัทลูก จากการตรวจสอบพบว่า มีความพยายามถ่ายเทเอกสาร หลักฐานออกจากบริษัท เมื่อระบบรักษาความปลอดภัยถูกทำลาย เป็นเหตุให้บริษัทตัดสินใจมาทำงานในพื้นที่บริษัท ICAP ในช่วงเดือน ธันวาคม 2560 ส่วนสำนักงานที่อาคารเดอะไนน์ ยังคงใช้เป็นที่ประชุม ตลอดจนการติดต่อของบุคคลภายนอก”ทนายความ IFEC กล่าว
นายประสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า การดำเนินการดังกล่าว บริษัทได้ออกหนังสือแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ตามที่กฎหมายกำหนด และดำเนินการตามขั้นตอนในการแจ้งต่อประธานคณะกรรมการตรวจสอบ และประธานกรรมการบริหารบริษัท ซึ่งมีหนังสือตอบรับกลับมาโดยไม่มีผู้ใดโต้แย้ง หรือคัดค้าน รวมถึงกรรมการอิสระทั้ง 2 คนด้วย.