Reporter&Thai Army ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวมุกดาหาร ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเด่น นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

“ผู้นำต้องทำก่อน” ผู้ว่าฯ มุกดาหาร เปิดจวนนำหัวหน้าส่วนราชการ และชมรมแม่บ้าน มท. เยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบ “โคก หนอง นา” สวนในจวน มุ่งมั่นสร้างแหล่งเรียนรู้คู่ชุมชน เป็นต้นแบบในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน

“ผู้นำต้องทำก่อน” ผู้ว่าฯ มุกดาหาร เปิดจวนนำหัวหน้าส่วนราชการ และชมรมแม่บ้าน มท. เยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบ “โคก หนอง นา” สวนในจวน มุ่งมั่นสร้างแหล่งเรียนรู้คู่ชุมชน เป็นต้นแบบในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืนเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 67 นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนการดำเนินโครงการโคก หนอง นา อารยเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จังหวัดมุกดาหาร เพื่อขยายผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่การปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต โดยการต่อยอด และขยายผลการดำเนินโครงการพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” สู่การพัฒนาพื้นที่แบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร หัวหน้าส่วนราชการ ชมรมดอกช้างน้าวบาน และสมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดมุกดาหาร ศึกษาดูงาน โคก หนอง นา สวนในจวน ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งนับเป็นต้นแบบในการเรียนรู้ “โคก หนอง นา” เพื่อต่อยอดการพัฒนาพื้นที่และการบริหารจัดการน้ำ สู่การเป็น “ศูนย์เรียนรู้เพื่อความมั่นคงทางอาหาร”นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จังหวัดมุกดาหาร ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายกระทรวงมหาดไทยในการน้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผ่านการเรียนรู้และปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา อารยเกษตร ซึ่งนำไปสู่การใช้ชีวิตแบบ “พึ่งพาตนเอง” เพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชน รวมทั้งการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ช่วยสร้างความมั่นคงด้านอาหารอย่างยั่งยืน ทำให้เกิดความรักความสามัคคีของคนในชุมชน ต่อยอดไปสู่การนำไปขาย เป็นการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย เพื่อเป็นต้นแบบแนวทางขจัดความยากจน ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนมีรากฐานการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่มั่นคง ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

“จังหวัดมุกดาหาร ได้ยึดมั่นในแนวคิด “ผู้นำต้องทำก่อน” โดยหัวหน้าส่วนราชการจะต้องเป็นผู้ที่ศึกษาเรียนรู้แนวคิดและผลสำเร็จ “โคก หนอง นา ในจวน” เพื่อให้นำไปขยายผล ต่อเนื่องภายในหน่วยงาน ภาคีเครือข่าย และพี่น้องประชาชน ให้สามารถพึ่งพาตัวเอง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร มีแนวคิดริเริ่มมาจากการพัฒนาพื้นที่หลังจวน โดยเริ่มจากแปลงผักเล็ก ๆ ก่อนขยายมาเป็นแปลงนาสาธิต คันนาทองคำ โรงเพาะเห็ด การเพาะเลี้ยงไก่ไข่ เป็ด ห่าน และสัตว์น้ำ โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการบริการจัดการน้ำในพื้นที่มาทำเกษตรกรรมเกิดเป็นโครงการ “แล้งนี้ต้องมีน้ำ” ซึ่งเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยการนำน้ำจากแม่น้ำโขง ที่อยู่ระยะห่างออกไป 1 กิโลเมตร นำมาพักในบ่อพักน้ำในพื้นที่จวน จำนวน 2 บ่อ เพื่อใช้สู่การเกษตรเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ ในการทำเกษตรทำให้สามารถทำประโยชน์ได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูแล้ง เพื่อเป็นต้นแบบให้กับพี่น้องประชาชน และเกษตรกรที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง สามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ซึ่งสามารถสูบน้ำได้วันละ 200,000 ลิตร รองรับการทำเกษตรในพื้นที่ได้ถึง 10 ไร่ สามารถทำการเกษตรได้เพียงพอตลอดทั้งปี เกษตรกรก็จะมีรายได้ สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรชาวมุกดาหารได้อย่างยั่งยืน” นายวรญาณฯ กล่าวนายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวต่อไปอีกว่า การพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ “โคก หนอง นา สวนในจวน” เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ เกิดจากพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระองค์ทรงคิดค้นทฤษฎีใหม่เพื่อยังคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน โดยทรงให้ความสำคัญกับดิน และแหล่งน้ำ ทำให้พื้นที่ทำมาหากินต้องมีน้ำและมีการจัดสรรพื้นที่ในการทำประโยชน์อย่างสมดุล ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาคน เพื่อให้คนไปพัฒนาพื้นที่ ผ่านการสร้างความตระหนักรู้ในทรัพยากรดินเนื่องในโอกาสวันดินโลก ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด ดินดี น้ำดี ชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน (Sustainable Soil and Water for Better life) และต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระองค์จึงพระราชทานโครงการโคก หนอง นา ซึ่งเป็นโครงการที่ประยุกต์และต่อยอดมาจากการเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้ทุกภาคส่วนได้น้อมนำไปขับเคลื่อน โดยเป็นนโยบายหลักให้ทุกจังหวัด อำเภอ หมู่บ้าน ได้ร่วมกันดำเนินการ “โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา” หรือ โครงการ “อารยเกษตร” ซึ่งจะช่วยทำให้พื้นที่ที่เราพัฒนาแล้วจะเกิดความสวยงาม ทั้งภาพลักษณ์ และอรรถประโยชน์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีผืนแผ่นดินทำมาหากิน อยู่อาศัย ที่มีต้นไม้ 5 ระดับ อันจะทำให้คนมีกิน มีใช้ และดูแลให้คนในครอบครัวมีความสุข รวมทั้ง เป็นสืบสาน โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยปลูกผักสวนครัวและพืชสมุนไพร ไม้ผลชนิดต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ทำให้มีผักปลอดสารพิษไว้บริโภคภายในครัวเรือน และยังต่อยอดพัฒนา โดยการนำส่วนที่เหลือจากการใช้บริโภคในครัวเรือนไปแบ่งปันให้กับชุมชนได้ ส่งเสริมการสร้างความรักความสามัคคี ปลูกจิตสำนึกและวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวในช่วงท้ายว่า การพัฒนาอารยเกษตรอย่างยั่งยืน ทำให้เราได้เห็นว่าภาคีเครือข่ายทุกท่านได้สื่อสารอย่างชัดเจนว่า สิ่งที่เป็นความมั่นคงของประชาชนทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการทำมาหากิน การใช้ชีวิต ล้วนแต่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นผู้นำด้วยการที่พระองค์ท่านพระราชทานแนวพระราชดำริให้พวกเราน้อมนำมาทำ โดยไม่ต้องอายที่ได้ทำ เพราะเป้าประสงค์ของพระองค์ท่านอยากเห็นพี่น้องคนไทยทุกคนมีความสุข ประเทศชาติมั่นคง ดังนั้น การน้อมนำแนวทางแปลงโคก หนอง นา ไปประยุกต์ต่อยอดขยายผลในแปลงอื่น ๆ ทุกพื้นที่ มุ่งมั่นขยายผลการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง เพื่อเป็นการรวมพลังแสดงออกถึงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ร่วมกันนำสิ่งที่ดีสู่พี่น้องประชาชนชาวมุกดาหาร “Change for Good” ช่วยกันทำให้ทุกพื้นที่ของเรามีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน.