17 มิถุนายน 2567 ที่ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ นายธนพล หมื่นยา นายกสมาคมผู้ค้าผลไม้ภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจจากพระครูสุทธิสีลธาดา เจ้าอาวาสวัดหัวดง อ.ลับแล พร้อมด้วยพี่น้องประชาชน ต.แม่พูล อ.ลับแล พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์ และคณะศรัทธา กว่า 100 คน ได้รวมตัวกันที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมชูป้ายข้อความ “เอาตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหัวดงสุวรรณเจดีย์ คืนมา , ขอความเป็นธรรมให้พระครูสุทธิสีลธาดา,เจ้าอาวาสไม่ผิผิด,เรานับถือหลวงพ่อ” และจัดเตรียมหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าอาวาสวัดหัวดงสุวรรณเจดีย์ ต.แม่พูล อ.ลับแล หลังถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเจ้าอาวาส จากสำนักงานเจ้าคณะอำเภอลับแล
พร้อมแนบสำเนาหนังสือคำสั่งเจ้าคณะอำเภอลับแล ยื่นต่อนายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าฯจ.อุตรดิตถ์ จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้สอบถามถึงรายละเอียดวัตถุประสงค์ของชาวบ้านที่มาชุมชนกัน ที่เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ก่อนจะรับมอบหนังสือจากตัวแทนผู้ร้องทุกข์ และขอความร่วมมือจัดตัวแทนพี่น้องประชาชน 5 คน ได้ชี้แจ้งรายละเอียด และหาทางออกร่วมกัน ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยนายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าฯจ.อุตรดิตถ์ มอบหมายนางน้ำทิพย์ ต่ายลำยงค์ ผอ.สนง.พระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ ดำเนินการให้เรื่องดังกล่าวและหาข้อสรุปภายในเดือนมิถุนายน นี้
นายธนพล หมื่นยา ตัวแทนประชาชนที่ยื่นหนังสือ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้วัดหัวดง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ได้ อนุญาตให้พ่อค้าแม่ค้าผลไม้ตามฤดูกาลของลับแล ทั้ง ทุเรียน ลองสาด ลองกอง ใช้พื้นที่ของวัดเปิดเป็นตลาดกลาง ค้าขายผลไม้ เมื่อเวลาล่วงเลยนานวันจากแผงขายเล็กๆ กลายเป็นสิ่งปลูกสร้างถาวร ส่งผลให้บริเวณที่ใช้ในการประกอบ พิธีทางพระพุทธศาสนาคับแคบ ทางวัดได้แจ้งก่อนล่วงหน้า 2 ปี คือ ปี 2565 เพื่อขอพื้นที่วัดคืน ในขณะที่ทางเทศบาลตำบลหัวดง ได้จัดเตรียมพื้นที่ตลาดกลางผลไม้และผลิตภัณฑ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ห่างจากวัดไม่ประมาณ 500 เมตร สร้างงบประมาณหลายสิบล้านบาท เพื่อให้ตลาดกลางผลไม้อำเภอลับแล ที่กว้างขวาง พร้อมด้วยสิ่งสาธารณูปโภค มีความสะดวก ปลอดภัย รองรับพ่อค้าแม่ค้า ชาวสวนที่นำผลผลิตทางการเกษตรขายส่งและปลีก
“ซึ่งมีบางส่วนไม่อยากย้ายออกจากพื้นที่เดิม ทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปยังเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ ในนามกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรเมืองลับแลกับร้านค้า ขอใช้พื้นที่วัดหัวดงสำหรับขายสินค้าทางการเกษตร ทางคณะสงฆ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายปกครองและฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้วัดใช้พื้นที่วัดจำหน่ายสินค้าทางเกษตรได้ดังเดิม แต่เจ้าอาวาสวัดหัวดงยืนยันในหลักการว่า วัดต้องเป็นวัด จึงถือเป็นละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ ทาง สนง.คณะอำเภอลับแล มีหนังสือคำสั่ง ให้พระครูสุทธิสีลธาดา พักจากตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลแม่พูล และ เจ้าอาวาสวัดหัวดง ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา”
นายธนพล กล่าวว่า ทั้งๆที่ผ่านมา มีปัญหามากมาย จนวัดจะไม่เป็นวัด เวลาเผาศพแทบไม่มีพื้นที่ สร้างความวุ่นวาย ความสกปรก แทบจะเป็นแหล่งมั่วสุมไปแล้ว สร้างอาคารถาวร ห้องน้ำห้องสุขา มีการดื่มสุรา ซึ่งเหมาะสมหรือไม่ ถ้าวันนี้ไม่มีคำตอบที่เราต้องการคือ คืนตำแหน่งให้เจ้าอาวาสสัดหัวดง และ ให้พ่อค้าแม่ค้าย้ายออกจากพื้นที่วัด ไปขายที่ตลาดกลางผลไม้ที่ทางเทศบาลตำบลหัวดงจัดสร้างไว้ พวกเราจะนำเงินจากการขายทุเรียนหลง-หลินลับแล จัดเป็นกองทุนเหมาโบกี้รถไฟ ไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมที่มหาเถรสมาคม และ ผู้ตรวจการแผ่นดิน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตัวแทนชาวบ้าน ได้เข้าชี้แจ้งรายละเอียด แสดงถึงเจนตนาการยื่นหนังสือให้ครั้งนี้ ทาง ผอ.สนง.พุทธศาสนาจังหวัด พร้อมจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อร่วมทางออกที่เหมาะสม ซึ่งน่าจะภายในสิ้นเดือนมิถุนายน นี้ จะชัดเจนในทุกเรื่อง อย่างไรก็ตามเมื่อได้รับทราบขั้นตอนคณะศิษยานุศิษย์ และคณะศรัทธา ได้แยกย้ายกลับ เพื่อรอความชัดเจนตามที่กำหนด
นาคา คะเลิศรัมย์ รายงาน