ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวอาชญากรรม ข่าวเด่น ปทุมธานี

ตำรวจภาค 1 จับยาเสพติดบิ๊กล็อต ยึดของกลาง 4.8 ล้านเม็ด

8 มิถุนายน  2567 นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงข่าวร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนตำรวจภาค 1  หลังสืบสวนขยายผลการจับกุมคดียาเสพติด รายสำคัญในพื้นที่ภาค 1 จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และทีมลำเลียงยาเสพติดได้เป็นจำนวนมากหลายคดี  โดยเมื่อในห้วงวันที่ 6-7 มิ.ย.67 จะมีการลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้า ยาเสพติดในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย โดยใช้รถบรรทุก IZUZU สีน้ำเงิน ตู้ทึบสีขาว ทะเบียน 96-1698 กทม. ในการลำเลียงยาเสพติด จึงได้สั่งการให้สืบสวนจับกุม และได้บูรณาการกำลังสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหว เพื่อทำการจับกุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ต่อมา ในวันที่ 7 มิ.ย.67 จากการสืบสวนทราบว่า รถบรรทุก IZUZU คันเป้าหมาย ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด เข้ามาในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สะกดรอยติดตามจนถึง ลานจอดรถริมถนนคลองหลวง ม. 5 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จว.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้น และสามารถจับกุมตัวนายครรชิตหรือเก่ง กันยามา อายุ 30 ปี ได้พร้อมของกลาง ดังนี้ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ 4,800,000 เม็ด และ รถบรรทุก IZUZU สีน้ำเงิน ตู้ทึบสีขาว ทะเบียน 96-1698 กทม. จำนวน 1 คัน (ใช้สำหรับลำเลียงยาเสพติด) โดยกล่าวหาว่า นายครรชิตหรือเก่งฯ กระทำความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณลานจอดรถริมถนนสายคลองหลวง หมายเลข 3214 ใกล้กับถนนวงแหวนเชียงรากใหญ่ ม.5 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เวลาประมาณ 11.40 น.


จากการสอบถามเพื่อขยายผล นายครรชิตหรือเก่งฯ ยอมรับสารภาพว่าได้รับว่าจ้างจากนายโอ ให้ขับรถบรรทุกลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือมาส่งมอบให้กับผู้จำหน่ายในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยได้รับค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 3,000บาทการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติด ของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 140,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป
สญชัย คล้ายแก้ว  รายงาน