7 พฤษภาคม 67 ที่สถานีตำรวจน้ำ 2 กองกำกับการ 6 (สุราษฎร์ธานี) กองบังคับการตำรวจน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พลตำรวจตรีเสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พันตำรวจเอกนิรัตน์ ช่วยจิตต์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ ,นายรัชพล ปาละกูล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค8 , เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจน้ำ ตำรวจชุดจำกับกุมและผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลจับกุมคดียาเสพติด ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ “ยุทธการ เด็ดปีก อ่าวไทย”
โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน ประกอบด้วย นายวิเชษฐ หรือเชษ เทศนอก อายุ 70 ปี และนายจรัส หรือรัส อะเส็ม อายุ 54 ปี ชาวจังหวัดตรัง,นายนิติกร หรือแหลม เสียมไหม อายุ 55 ปีชาวจังหวัดสตูล ,และนายสุรศักดิ์ หรือปอน มากนวล อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ พร้อม ของกลางไอซ์ 80 กิโลกรัม อาวุธปืน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 13 นัด และ รถกระบะ 2 คัน นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุม ผู้ต้องหาได้อีก 1 คน คือ นายนพพร หนูเกตุ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ติดต่ออยู่บนฝั่ง และเจ้าหน้าที่ ยังคงขยายผลและมีการออกหมายจับเพิ่มเติม เพื่อสาวไปถึงตัวการใหญ่ของขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจน้ำ กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ มีเบาะแสและติดตามพฤติกรรมของกลุ่มผู้ร่วมขบวนการค้ายาเสพติด คือ นายเชษ และนายแหลม ที่ทำตัวเป็นนายหน้าติดต่อกับนักค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว พบว่า ทั้งคู่ได้เดินทางมาพบนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งคาดว่าเป็นการซื้อขาย ส่งมอบยาเสพติด จึงได้ติดตามตัว จนพบว่าทั้ง 2 มาเป็นเปิดและเข้าพัก ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีรถกระบะต้องสงสัยเข้ามายังรีสอร์ท ดังกล่าวและบรรทุกสิ่งของบรรจุกระสอบมาจำนวนหนึ่ง และได้พบกับนายแหลม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าจับกุม และตรวจค้นจนพบของกลางดังกล่าว รวมถึงติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ รวม 4 คน ซึ่งยาเสพติดจำนวนดังกล่าว ผู้ต้องหามีแผนจะกระจายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันปราบปราม ยาเสพติด เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัด โดยเฉพาะในฐานะการเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำ และขณะนี้ เจ้าหน้าที่ ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายผลการจับกุม ให้ถึงตัวการใหญ่ รวมถึง ใช้มาตรการทางกฎหมายทุกวิถีทาง ทั้งการสืบสวน จับกุม ยึดทรัพย์ เพื่อทลายขบวนการเหล่านี้ และยังเป็นการปกป้อง ประชาชน เด็กและเยาวชน ให้ปลอดภัย จากยาเสพติด ให้มากที่สุด โดยหากพบว่า มีข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่มีละเว้น
