29 เมษายน 2567 นายกตตน์ ชยเทศน์ ประธานผู้ริเริ่มก่อตั้งกลุ่มพลังปลดหนี้ พร้อมด้วยลูกหนี้ จำนวน 8 ราย ที่เดือดร้อนจากเจ้าหนี้เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด โดยปล่อยเงินกู้ให้กับลูกหนี้ด้วยการทำสัญญากู้ยืมเงินไม่เป็นธรรม ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.ประยุทธ์ เรือนทองคำ ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหนี้ นาง จ (นามสมมุติ) ตามกฎหมาย
นายกตตน์ ชยเทศน์ ประธานผู้ริเริ่มก่อตั้งกลุ่มพลังปลดหนี้ เปิดเผยว่า วันนี้ได้รวบรวมนำพาสมาชิกกลุ่มคนเป็นหนี้ ให้มาแจ้งความดำเนินคดีกับนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ นาง จ (นามสมมุติ) เจ้าแม่ปล่อยเงินกู้มุกดาหาร ในข้อหา ปล่อยเงินกู้ไม่ได้รับอนุญาต และผิด พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา และผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน รวม 4 ข้อหา
นาย กตตน์ ชยเทศน์ เปิดเผยอีกว่า สาเหตุที่มาแจ้งจับเมื่อก่อนได้ไปที่ศูนย์ดำรงจังหวัดมุกดาหาร ได้นัดนายทุนกับลูกหนี้มาไกล่เกลี่ยกัน แต่ว่านายทุนได้บวกดอกเบี้ยเพิ่ม ตัวอย่างของนางวันทองฯ เป็นหนี้ 700,000 บาท แต่ขอยอด 1,200,000 บาท โดยทางจังหวัดแก้ไขปัญหาหนี้ ได้มีคณะกรรมการจังหวัดช่วยกันไกล่เกลี่ย ทางนายทุนไม่ยอมก็เลยทำบันทึกไว้ว่าจะขายคืน 1 ล้านสองแสนบาท ทุกคนที่มาโดนดอกเบี้ยหมดเลย และของคนอื่นมีส่งดอกเบี้ยและเซ็นต์รับเงินด้วย และได้ทำหนังสือสอบถามไปยังผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เบื้องต้นไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยเงินกู้ และปล่อยเงินกู้เป็นจำนวนหลายคน ซึ่งเป็นการบริการปล่อยเงินกู้ และสืบลับมาว่านายทุนได้ยึดที่ชาวบ้านมาแล้ว และทางจังหวัดมุกดาหาร โดยปลัดจังหวัด มีหนังสือตอบไปว่า เขาไม่ได้ขออนุญาตทวงถามหนี้ ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ก็เลยนำพาลูกหนี้เข้ามาแจ้งความกับ ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีกับนายทุนคนดังกล่าว
ทั้งหนี้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหาร ได้นัดนายทุน กับลูกหนี้ทั้งหมดมาไกล่เกลี่ยแต่ไม่สามารถตกลงกันไม่ได้ และได้ทำคำร้องถึง ฯพณฯนายกรัฐมนตรี ผ่านกลุ่มพลังปลดหนี้ และมอบอำนาจให้ทำการแทน ต้องการดำเนินคดีกับนาง จ (นามสมมุติ) ให้ถึงที่สุด
โดยลูกหนี้ทั้งหมดได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหนี้รวม 4 ข้อหา ประกอบด้วย ให้สินเชื่อแก่บุคคลอื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมมีความผิดตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 ข้อ 5(7) และข้อ 16 ประกอบข้อ 5(4) ประกาศกระทรวงการคลัง 30 กรกฎาคม 2563 หมวด 1 การจัดตั้งและการขออนุญาต , ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด เป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 ( ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี 2560) , ไม่ได้ขึ้นหรือจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการทวงหนี้ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 ( หลายมาตรา ) และฝ่าฝืนพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และความผิดอาญาอื่น ๆ สำหรับเจ้าหนี้ นาง จ (นามสมมุติ) ไม่ได้ขออนุญาตหรือการขึ้นทะเบียนให้ประกอบธุรกิจ ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย
ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร รายงาน
