บ่ายวานนี้ 17 เมษายน 67 นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่อำเภอบ้านนาเดิม เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยจุดแรกเป็นการสำรวจพื้นที่โครงการปรับปรุงแก้มลิงทุ่งปากขอ ตำบลทรัพย์ทวี โดยมีนายนพดล มีวิเศษ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี นายสมยศ ณ นคร นายอำเภอบ้านนาเดิม นายธนชัย หนูไชยแก้ว นายก อบต.ทรัพย์ทวี นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงาน ปภ. จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ ส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ ซึ่งโครงการดังกล่าว มีชาวบ้านยื่นเรื่องไปยังคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ เพื่อขอให้กรมชลประทานปรับปรุงคันดินกั้นน้ำแก้มลิงทุ่งปากขอ ตามแนวริมแม่น้ำตาปี ระยะทางประมาณ 4.7 กิโลเมตร โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี จึงได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ ร่วมกับ อำเภอบ้านนาเดิม และอบต.ทรัพย์ทวี เพื่อสำรวจพิจารณาความเหมาะสมของการดำเนินโครงการ
ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี ระบุว่า ผลการพิจารณาโครงการเบื้องต้น มีความเหมาะสม เพราะจะช่วยให้เพิ่มศักยภาพในการรองรับน้ำเข้าสู่แก้มลิงในช่วงน้ำหลากได้มากขึ้น และคันดินดังกล่าว ยังใช้เป็นเส้นทางสัญจรทั้งของเจ้าหน้าที่ชลประทาน เพื่อเข้าบำรุงรักษาอาคารส่งน้ำ และชาวบ้านสามารถใช้เป็นเส้นทางขนส่งผลผลิตทางการเกษตร คาดว่าจะใช้งบประมาณ ราว 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม พื้นที่ทุ่งปากขอสาธารณประโยชน์ เนื้อที่กว่า 4,143 ไร่ เป็นพื้นที่หนังสือสำคัญที่หลวงเลขที่ 30977 ในกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะต้องขออนุญาตใช้ที่ดินก่อน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบหมายให้ส่วนที่เกี่ยวข้อง เสนอโครงการมาตามขั้นตอน เพื่อเข้าสู่การพิจารณาตามระเบียบราชการ พร้อมทั้ง มอบหมายให้โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี พิจารณาแนวทางการพัฒนาระบบชลประทานเพื่อส่งน้ำไปยังพื้นที่การเกษตรของประชาชน เพิ่มประโยชน์ใช้สอยของแก้มลิง ในการช่วยเหลือเกษตรกรในหน้าแล้งได้ด้วย
จากนั้น ได้ลงพื้นที่สำรวจสระเก็บน้ำ ของ อบต.ทรัพย์ทวี ซึ่งเป็นสระเก็บน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำเหลือเพียงประมาณ 50 เซนติเมตร ไม่สามารถสูบจ่ายน้ำประปาได้แล้ว ทำให้ประชาชนพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลทรัพย์ทวี กว่า 300 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้สั่งการให้ ปภ.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประสานนำเครื่องสูบน้ำระยะไกล มาติดตั้งเพื่อสูบน้ำจากแก้มลิงทุ่งปากขอ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร มาเติมในสระ โดยเบิกจ่ายงบประมาณจากเงินสะสมของ อบต. เพื่อดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าหากติดตั้งเครื่องสูบน้ำแล้วจะใช้เวลาประมาณ 5 – 7 วันในการเติมน้ำจนเต็ม
ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง เทศบาลตำบลบ้านนา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในคลองลำพูน ซึ่งมีต้นน้ำมาจากอำเภอบ้านนาสาร ซึ่งขณะนี้ น้ำในคลองเริ่มแห้งขอด การสูบน้ำเพื่อนำไปผลิตน้ำประปาทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลตำบลบ้านนา ได้มีแผนสำรองในการใช้น้ำบาดาล ที่มีอยู่ 6 บ่อ มาบริหารจัดการจ่ายน้ำให้ประชาชน แต่จำเป็นต้องสลับการจ่ายเป็นโซนและช่วงเวลา เพื่อบริหารจัดการปริมาณน้ำให้เพียงพอตลอดหน้าแล้ง ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่า หากฝนทิ้งช่วงนาน หรือ มีวิกฤตรุนแรง ให้รีบแจ้งนายอำเภอ เพื่อประสานไปยังจังหวัดและ ปภ. เพื่อเข้ามาช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนทันที และแนะนำให้พิจารณาความเหมาะสม ในการขุดลอกคลองในช่วงหน้าแล้งหากมีงบประมาณ เพราะจะทำได้สะดวก และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการรับน้ำ ระบายน้ำช่วงหน้าฝน รวมถึง เก็บน้ำในหน้าแล้งด้วย
