17 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ กรณีหญิงวัยรุ่นวูบดับ เสียชีวิตขณะเล่นน้ำสงกรานต์ บริเวณริมถนนสายกันทรลักษ์-เขาพระวิหาร หน้าศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทราบชื่อต่อมา คือ นางประภัสรา รัตวาลย์ อายุ 31 ปี ลูกสาวของ นายปวิช รัตวาลย์ นายอำเภอพยุห์ จ.ศรีสะเกษ โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 19.45 น.
เมื่อไปถึงได้พบกับ น.ส.จันจิรา ธานี หรือน้องไข่มุก อายุ 20 ปี เจ้าหน้าที่ชีพกู้ภัยเทศบาลกันทรลักษ์ ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าช่วยเหลือในการปั้มหัวใจขณะเกิดเหตุ เล่านาทีชีวิตให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อช่วงค่ำของวันเกิดเหตุ วันที่ 15 เมษายน 2567 ขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่ประจำจุด ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุเทศบาลกันทรลักษ์ ว่ามีเหตุผู้ป่วยช็อค วูบหมดสติ และมีโรคประจำตัว ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ตนจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย เร่งนำรถกู้ชีพมุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน แต่เมื่อรถกู้ชีพกู้ภัยพยายามจะเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ปรากฎว่าไม่สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ เนื่องจากการจราจรติดขัด หนาแน่นมาก รถติดยาวเหยียด
จากนั้นตนและทีมกู้ชีพจึงตัดสินใจจอดรถห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร แล้วหยิบกระเป๋าพยาบาล เดินเท้ารีบเร่งรีบไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่ามีพลเมืองดีกำลังช่วยเหลือเบื้องต้นโดยการปั้มหัวใจอยู่ ตนจึงเข้าไปจับชีพจร เพื่อประเมินสัญญาณชีพ ก็พบว่าไม่มีชีพจรแล้ว จึงทำการช่วยทำ CPR ต่อ พร้อมประสานงานไปยังโรงพยาบาลกันทรลักษ์ เพื่อให้เข้ามาช่วยสนับสนุน พอรถพยาบาลออกมา ก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึงพื้นที่ได้ สาเหตุที่เข้าไม่ได้เพราะการจราจรติดขัด และไม่มีใครหลีกทางให้กับรถฉุกเฉินเลย จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ป่วยขึ้นรถที่ใกล้ที่สุดนำส่ง รพ.กันทรลักษ์ แต่ก็ไม่ทันการณ์
ซึ่งจุดที่พีคที่สุดกับเหตุการณ์นี้คือ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยกำลังปฏิบัติหน้าที่ช่วย CPR คนไข้อยู่ ยังมีคนที่เล่นน้ำสงกรานต์ มาดึงตัวเจ้าหน้าที่ไปปะแป้ง ซึ่งก็เป็นเหตุที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะเป็นนาทีชีวิต อยากฝากถึงทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง และประชาชนทั่วไป ในช่วงเวลาเกิดเหตุการณ์หรือสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่หรือรถกู้ชีพกู้ภัย เปิดสัญญาณไฟขอทาง อยากให้เปิดเส้นทางหรืออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อที่จะได้เข้าให้ช่วยเหลือคนไข้ได้อย่างทันท่วงที เพื่อลดความสูญเสีย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดป่าเบญจลักษ์ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลของผู้เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติพี่น้อง และได้ไปพบกับ นางประพิมพ์พร รัตวาลย์ อายุ 57 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมีลูก 2 คน เป็นหญิงทั้ง 2 คน คนโตคือผู้เสียชีวิต ได้แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ส่วนคนเล็ก อายุ 24 ปี วันเกิดเหตุตนทราบว่าลูกช็อคหมดสติ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. โดยมีญาติโทรมาบอก รู้สึกตกใจมาก จึงได้รีบเดินทางไปเยี่ยมลุกที่โรงพยาบาล แต่เมื่อไปถึงก็พบว่าลูกเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นลูกสาวตนมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ เคยผ่าตัดหัวใจเมื่อตอนยังเด็ก และอาการดีขึ้นเป็นปกติ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แพทย์ได้ระบุว่าเกิดจากหัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะ จึงเกิดอาการช็อคและวูบหมดสติกระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว โดยส่วนตัวตนก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุการณ์เสียชีวิตแต่อย่างใด และอยากให้มีการถอดบทเรียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากเกิดเหตุการณ์จาราจรติดขับหรือไม่อาจนำรถเข้าถึงพื้นที่จุดเกิดเหตุได้ ควรจะต้องมีแผนรองรับกับสถานการณ์ เพื่อลดความเสียแบบนี้อีกในอนาคต ส่วนพิธีศพของลูกสาวตนนั้น จะได้ทำพิธีฌาปณกิจศพ ที่วัดป่าเบญจลักษ์ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ.