12 เมษายน 2567 นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด สรุปผลการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 โดยมี นายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด, นายธรณิศ เทพแพงตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ที่ ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมทั้ง video conference ถ่ายทอดการประชุมไปทั้ง 20 อำเภอ
โดยอุบัติเหตุในรอบ 24 ชั่วโมงของวันที่ 11 เมษายน 2567 เกิดอุบัติเหตุ 4 ครั้ง ได้แก่ อำเภอหนองพอก อำเภอโพนทอง อำเภอเกษตรวิสัย และอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ซึ่งมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งมีจุดตรวจหลัก 36 จุด ด่านชุมชน 188 ด่าน และเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจหลัก 1,098 คน ปีที่แล้ว 11 เม.ย. 66 เกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง เจ็บ2รายเป็นหญิง ไม่มีเสียชีวิต
รายชื่อ ผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์พ.ศ. 2567 ประจำวันที่ 11 เมษายน 2567อำเภอเกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด เสียชีวิต จำนวน 2 ราย
1.ชื่อ นายธนัย พลสีลาอายุ 62 ปี ที่อยู่122 หมู่ที่12 ต.โนนสว่าง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด อาชีพ – 20.40 น. สถานที่เกดิเหตุถนน อบจ. หมายเลข 1037 บริเวณทางตรง บ้านอุ่มเม่า ต.เหล่าหลวง อ.เกษตรวิสัย ยานพาหนะ รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้าเงิน-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน(ไม่มีประกันภัย พ.ร.บ./ไม่ทราบ)
2.ชื่อ นายธนรัฐ ธรรมิภักดิ์ อายุ 21 ปี ที่อยู่4 หมู่ที่10 ต.โนนสว่าง เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด อาชีพ คู่กรณี รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้าเงิน ไม่ติดแผน่ ป้ายทะเบียน (ไม่มีประกันภัย พ.ร.บ./ไม่ทราบ)
สาเหตุ/ลักษณะการเกดิอุบัติเหตุ นายธนัย พลสีลา ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้าเงิน-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากบ้านอุ่มเม่ามุ่งหน้าไป ทางเทศบาลตำบลเกษตรวิสัย ส่วนนายธนรัฐ ธรรมิภักดิ์ขับรถออกจากเทศบาลตำบล เกษตรวิสัยมุ่งหน้าไปทางบ้านอุ่มเม่า เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ของนายธนัย พลสีลาขับล้ำ เข้าไปในช่องทางเดินรถของนายธนรัฐ ธรรมิภักดิ์ที่ขบัขี่สวนทางมาจนทำ ให้เกิดการเฉี่ยวชนกันอย่างรุนแรงและเสียชีวิตในที่เกิดทั้งคู่ ปัจจัยเสี่ยง/มาตรการ 1ร 2ส 3ข 4ม คือ มอเตอร์ไซด์ไม่ปลอดภัย
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เน้นย้ำทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เน้นการลดพฤติกรรมเสี่ยงที่ ได้แก่ ดื่มแล้วขับ และขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยตั้งจุดตรวจบริเวณจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง รวมถึงใช้กลไกด่านชุมชน/ ด่านครอบครัวเพื่อเฝ้าระวังตรวจตราและตักเตือนผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง อีกทั้งเตรียมความพร้อมการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ทั้งสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัคร กู้ชีพกู้ภัย ให้พร้อมปฏิบัติงาน และได้ขอพี่น้องประชาชนขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง มีสติ ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทาง “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ”
สมนึก บุญศรี รายงาน