วานนี้ (6 มีนาคม 67) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายจักรพันธ์ ท้าวสิงห์ อายุ 20 ปี เจ้าของร้านขายส่งน้ำแข็งยูนิค พักอาศัยอยู่ภายในซอยจันทร์ทองเอี่ยม ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังถูกหลายชาย คือ นายจักรรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นลูกของพี่สาว ใช้อาวุธปืนขู่ยิงคนในบ้านจนทำให้เกิดความหวาดกลัว ต้องหนีตายไปอยู่คนละทิศละทาง หลังเกิดเหตุเข้าแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ เพราะเหตุยังไม่เกิด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.00 น.
กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 ขณะที่นายจักรรินทร์ (หลานชาย)พร้อมกับเพื่อน ได้ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน แล้วใช้อาวุธปืนยิงไปที่นางตุ๊กตา ซึ่งเป็นยายแท้ๆถึง 3 ครั้ง แต่โชคดีที่กระสุนปืนด้าน จึงไม่มีใครได้รับอันตราย ล่าสุดวันที่ 5 มีนาคม 67 เวลา 18.47 น. นายจักรพันธ์ และ นายจักรรินทร์ สองน้าหลาน ได้ทะเลาะกันขั้นรุนแรง โดยนายจักรรินทร์ พูดจาข่มขู่จะใช้ปืนยิงคนในบ้าน
นายจักรพันธ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากหลานชายได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง กรณีใช้อาวุธปืนข่มขู่เด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านตลาดบางบัวทอง พอกลับมาถึงบ้านได้กลับมาหาเรื่องตนเอง โดยด่าเรื่องที่ตนเองไล่พ่อเขาออกจากงาน และขู่จะยิงหัวคนทั้งบ้าน ซึ่งหลานชายเริ่มมีอารมณ์เกรี้ยวกราดตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองกับแม่เกิดความหวาดกลัว เกรงว่าเขาจะเอาปืนมายิงตามที่ขู่ ทำให้ต้องหนีออกจากบ้านไปหลบอยู่ที่บ้านเพื่อนรุ่นพี่ ส่วนแม่ต้องหนีไปอยู่บ้านเพื่อนย่านปากเกร็ด ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาหลังจากที่ถูกหลานชายข่มขู่ ตนเองได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกว่าทำอะไรไม่ได้ เป็นเเค่การข่มขู่เท่านั้น เป็นเพียงคดีเล็กๆ เพราะเหตุยังไม่เกิด ซึ่งครอบครัวของตนอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน รวมหลานคนที่ก่อเหตุด้วยก็เป็น 6 คน ตอนนี้ไม่มีใครกล้าอยู่บ้าน ต้องหนีไปอยู่ข้างนอก ทุกคนต่างเกิดอาการหวาดกลัวกันหมด อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลและนำตัวหลานชายไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ตอนนี้หลานชายออกไปข้างนอกพร้อมกับอาวุธปืน ไม่รู้ว่าจะไปก่อเหตุทำร้ายใครอีกหรือเปล่า ถือว่าเป็นบุคคลอันตรายมาก.
นายณัฐวุฒิ ราบเรียบ อายุ 33 ปี เพื่อนรุ่นพี่ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายจักรพันธ์ ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้อง ได้ทักข้อความมาหา พร้อมเล่ารายละเอียดว่าถูกหลานชายข่มขู่จะใช้วุธปืนยิง จึงรีบให้น้องออกมาจากบ้านโดยเร็วที่สุด และให้มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของตนก่อน ซึ่งตนเชื่อว่าถ้าน้องมาหลบอยู่ที่นี่ ตนสามารถดูแลน้องได้ สุดท้ายนี้อยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เจ้ามาป้องปราม หรือดำเนินการอะไรก็ได้ ไม่ใช่บอกแค่เพียงว่าเหตุยังไม่เกิดแล้วก็ปล่อยผ่านไป ต้องรอให้เกิดความสูญเสียก่อนหรืออย่างไร ตำรวจถึงจะรับแจ้งความ
นางตุ๊กตา ท้าวสิงห์ อายุ 61ปี ยายผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า นิสัยมันแย่มากใครพูดอะไรก็ไม่ได้อารมณ์เขาฉุนเฉียว ใครขับรถผ่านมาหน้าบ้านเสียงดังมันก็จะไปยิงเขา จะไปฆ่าเขา มีคนเดินผ่านหน้าบ้านก็ไปต่อยเขา เขาไม่ได้ทำอะไรเลย มองหน้าเขาแล้วก็เดินไปต่อยเขา แต่ที่เขาไม่เอาเรื่องเพราะเขาสงสาร สาเหตุของเรื่องทั้งหมดมาจากการที่ไปไล่พ่อเขาออกจากงาน ตอนนี้ไม่เอาแล้ว ไม่อยากให้เข้าบ้าน เพราะเข้ามาแล้วจะเป็นภัยต่อกับบ้าน เมื่อปีที่แล้วเขาใช้ปืนยิง พอตำรวจถามเขาก็บอกว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาเสพติด ที่มีลักษณะสีเขียวเหลือง พอเสพเข้าไปเมื่อไรก็จะมีอาการฉุนเฉียวตลอด ซึ่งปกติเขาจะสูบกัญชาและกินใบกระท่อม ตอนนี้คนทั้งบ้านหวาดกลัวไปหมดแล้ว ตนเองต้องหนีไปอยู่ที่บ้านเพื่อนมา 3 วันแล้ว ไม่อยากจะเจอหน้ามัน พอมันขอเงินไม่ได้มันก็จะอาละวาด ที่ไม่ให้เพราะรำคาญ มันไม่เคยช่วยเหลืองานบ้านอะไรเลย ตั้งแต่ออกจากการเข้าไปบำบัดยาเสพติดเมื่อ 3 เดือนก่อน ก็ไม่ได้ทำงาน อยู่แต่บนห้อง เพราะไปทำงานไม่ได้ พอลูกค้ามองหน้าก็จะไปต่อยหน้าลูกค้า เสียลูกค้า อยู่บ้านเสพยาไปวันๆ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับนำตัวไปบำบัด และจะไม่ไปเยี่ยม ให้มันอยู่ลำบากบ้าง และหากยังเสพยาอีก ก็เอาไปขังคุกเลย
สาโรจน์ สว่างศรี / นนทบุรี