3 มีนาคม 2567 ที่วัดบ้านด่าน ตำบลสร้างปี่ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ พระธรรมราชานุวัตร เจ้าคณะภาค 10 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ 908 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธียกช่อฟ้าเอก พระวิหารหลวงพ่อทองและพิธีอัญเชิญหลวงพ่อทองขึ้นประดิษฐาน ณ วิหารหลวงพ่อทอง โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กรมการกฤษฎีกา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบรรจบ จันทรัตน์ รองอธิบดีกรมการปกครอง และนายขจรศักดิ์ ศรีบุญเรือง ประธานอุปถัมภ์สร้างวิหารหลวงพ่อทอง นำพุทธศาสนิกชนและชาวบ้านในพื้นที่ตำบลสร้างปี่ อำเภอราษีไศล และอำเภอใกล้เคียง ร่วมพิธีดังกล่าวด้วยอย่างเนืองแน่น
วัดบ้านด่าน แห่งนี้ มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ คือหลวงพ่อทอง ปางห้ามสมุทร อายุกว่า 700 ปี เป็นพระพุทธรูปที่ทางกรมศิลปากรยืนยันว่าเป็นพระพุทธรูปศิลปะ คาดว่าสร้างสมัยสุโขทัยตอนปลาย เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และแสดงอภินิหารให้ปรากฏอยู่หลายครั้งด้วยกัน เช่นเมื่อครั้งปี พ.ศ.2508 นักแสวงโชคได้ออกหาพระพุทธรูป เพื่อนำไปขายหรือส่งออกต่างประเทศตามความต้องการของตลาด ได้มีนักแสวงโชคมาแอบขโมยหลวงพ่อทอง โดยใช้คนหาม 4 คน มุ่งหน้าเดินทางออกจากวัด เดินทางทั้งคืนได้แค่ประมาณ 2 กิโลเมตร ก็นำหลวงพ่อทองไปซ่อนไว้ในจอมปลวก วันต่อมาไปจ้างวานเกวียนของชาวบ้านมาขน และเดินทางไปได้ระยะหนึ่งเกวียนก็หักและได้นำพระพุทธรูปไปทิ้งลงในบ่อน้ำ ชาวบ้านตามหาจนพบ จึงได้นำกลับมาบ้านด่านดังเดิม และเมื่อปี 2518 ได้มีกลุ่มคนที่มีอิทธิพลกลับไปขโมยหลวงพ่อทอง บรรทุกใส่รถจี๊ป นำไปถึง อ.ราษีไศล และนำไปเก็บไว้ที่บริเวณบ้านของตนเอง แต่เกิดอาการวิตกจริต จึงนำไปซ่อนไว้ที่ป่าละเมาะหาดทรายแม่น้ำมูลใกล้วัดกลาง ชาวบ้านไปค้นหาจนพบและนำไปไว้ที่ สภ.ราษีไศล และได้นำไปเก็บไว้ที่ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ เมื่อพิสูจน์ได้ว่าเป็นหลวงพ่อทอง เป็นพระพุทธรูปของวัดบ้านด่าน จึงได้นำกลับมาที่วัดดังเดิมอีกครั้ง และได้นำหลวงพ่อทอง ประดิษฐานไว้ในกรงเหล็กอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายใจบาปมาลักเอาหลวงพ่อทองได้อีก
หลวงพ่อทองเป็นพระพุทธรูปที่ชาวบ้านในหมู่บ้าน และชาวจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมถึงต่างจังหวัด เคารพนับถือศรัทธา เชื่อว่าถ้ามาขอพรอะไรก็จะได้สมใจปรารถณา แต่ที่สำคัญถ้าจะขอต้องตะโกนขอเปล่งเสียงออกมาดังๆ เพื่อให้หลวงพ่อทองได้ยิน และต้องทำตัวเป็นคนดี อยู่ในศิลธรรมจึงจะสำฤทธิ์ผล ปัจจุบันยังมีวิหารหลวงพ่อทอง เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งวัดบ้านด่าน จังหวัดศรีสะเกษ ได้สร้างวิหารได้อย่างวิจิตรงดงาม มีการสลักลวดลายและงานปั้นองค์พญานาคและเทวดานางฟ้าต่างๆ ที่ดูอ่อนช้อยและสวยงาม เหมือนกับสวรรค์บนดินเลย โดยวิหารทั้งหลังนั้นจะเน้นใช้สีขาวเป็นหลัก มองดูคล้ายกับที่วัดร่องขุ่นจังหวัดเชียงรายของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เลยก็ว่าได้ นอกจากวิหารหลวงพ่อทองแล้ว ก็ยังมีซุ้มประตูโขง เป็นซุ้มประตูที่สวยที่สุดในภาคอีสาน จุดเด่นคือ มีการสลักลวดลายและงานปั้นองค์พญานาคและเทวดานางฟ้าต่างๆ และสวยงาม แปลกไม่เหมือนใคร คือ เวลาไปยืนอยู่ตรงกลางประตูแล้วพูดหรือกระโกนออกมาจะมีเสียงก้องกังวาน คล้ายอยู่ในห้องโถง แต่พอเดินหลุดพ้นซุ้มประตูออกมาแล้วเวลาพูดออกมากับไม่ก้องกังวานเหมือนตอนอยู่ที่ซุ้มประตู ซึ่งถือเป็นสิ่งที่แปลกและเป็นจุดเด่นอีกจุดของทางวัดด้วย.
บุญทัน ธุศรีวรรณ ผู้สื่อข่าวศรีสะเกษ รายงาน