สุราษฎร์ธานี คนสุราษฎร์ฯพร้อมเปลี่ยน แห่เชียร์ดร.มาโนช เพ็ชรชู นั่งเก้าอี้นายก อบจ.ฯ.
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15.00 น ที่ทำการชั่วคราวพรรคก้าวไกล ถ.โฉลกรัฐ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พรรคก้าวไกลได้เปิดเวทีสภาประชาชน รับสมัครสมาชิกพรรคฯ และรับเรื่องร้องทุกข์ โดยนายชัยธวัช ตุลาธน เดินทางมาพบประชาชนพร้อมรับข้อร้องเรียนนำไปแก้ไข ในขณะที่มีผู้เสนอตัวลงสมัครนายก อบจ.ฯ ในนามพรรคฯหลายราย
นายชัยธวัช กล่าวว่าการลงพื้นที่วันนี้ตนอาศัยวันหยุดมาพบประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาแล้วนำไปแก้ไขในระบบรัฐสภาต่อไป ในส่วนของการเมืองท้องถิ่นพร้อมส่งผู้สมัครทุกระดับโดยยึดโยงกับประชาชน และประชาชนจะเป็นผู้เลือกตัวแทนของเขาเอง เรามีกลไกกรรมการในระดับอำเภอจนมาถึงในระดับจังหวัด ดังนั้นการเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ ผู้สมัครที่จะได้รับการเสนอชื่อในนามพรรคฯ ก็จะผ่านระบบกรรมการระดับจังหวัดฯ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เสนอตัวกันหลายคน ตนขอขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจ จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ประชาชนนำเสนอปัญหาพร้อมข้อเสนอแนะทิศทางการทำงานของพรรคฯ โดยตัวแทนภาคประชาชนเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาของที่ดินทำกินที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างจริงจัง โดยเฉพาะที่ดินทับซ้อนจากการกำหนดเขตป่าไม้
ต่อมา ดร.มาโนช เพ็ชรชู หัวหน้าทีมสุราษฎร์พัฒนา (ผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ฯ) ได้กล่าวในที่ประชุมว่าถือโอกาสนำเสนอความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการเสนอตัว
และกล่าวว่าตนจบปริญญาเอกปรัชญาการเมือง ม.รามคำแหง ปริญญาโทรัฐศาสตร์การเมืองสำหรับผู้บริหารธรรมศาสตร์ และจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ ม.ปทุมธานี เข้าใจเรื่องการเมืองเป็นอย่างดี และเรียนรู้เรื่องการเมืองมาหลายสิบปี
ดร.มาโนช กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางที่ตนได้ศึกษามาในสถานการณ์ปัจจุบันมีเพียงพรรคก้าวไกลซึ่งเป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง ตนเห็นวิธีการ กระบวนการของพรรคก้าวไกลทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และการเมืองท้องถิ่นของจังหวัดสุราษฎร์ฯ จำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง คนสุราษฎร์ฯ ต้องคิดใหม่-ทำใหม่ กล้าสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อย่างตรงไ ตรงมา ดร.มาโนช กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
สำหรับ ดร.มาโนช และคณะได้ทำกิจกรรมในพื้นที่สุราษฎร์ฯ มาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านการศึกษา เกษตรกรรม งานสังคมทุกชนิด ข่าวแจ้งว่าสำหรับว่าที่ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.สุราษฎร์ฯ ในครั้งนี้ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วบางส่วน จากการสอบถามชาวบ้านให้ข้อมูลว่าการเมืองท้องถิ่นในครั้งนี้ถือว่าเป็นการชี้ชะตาของจังหวัดฯ โดยส่วนใหญ่ต้องการให้ผู้สมัครมีนโยบายที่จับต้องได้ เข้าถึงประชาชน การเมืองต้องโปร่งใสไม่ซื้อเสียง ขายสิทธิ โดยทราบว่า ดร.มาโนช เพ็ชรชู ได้ยืนหยัดนโยบาย “ทำการเมืองโปร่งใสไม่ซื้อเสียง” มาตลอด และขอให้ทุกฝ่ายเดินหน้าทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ต่อไป.