ปราจีนบุรี พระราชปริยัติวัชราจารย์ ดร. เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี มอบหมาย พระครูประโชติปริยัติคุณ และพระครูถาวรโพธาภิรักษ์ ดร. รองเจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วย พระเถระพระสังฆาธิการเจ้าคณะอำเภอร่วมอฐิษฐานจิตตักน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์โบราณสถานรอยพระพุทธบาทคู่ วัดสระมรกต อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเป็นมวลสารน้ำศักดิ์สิทธ์เข้าพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสกน้ำพระพุทธมนต์ สำหรับเป็นที่ระลึกในงานเทศกาลมาฆปูรมีศรีปราจีน ครั้งที่ ๓๘ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗ ระหว่างวันที่ ๑๗ – ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ โดยมี นางวารินทร์ สิกขชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปราจีนบุรี นายพีรพล ลือล่า นายอำเภอศรีมโหสถ นายเบิ้ม ฉัตรชูสิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกไทย ร่วมพิธีฯ
ในพิธีอธิษฐานจิตตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี เมตตาให้นิมนต์พระเถระ พระสังฆาธิการ อันมีราชทินนามและนามอันเป็นมงคล ร่วมอิธิษฐานจิต ประกอบด้วย พระครูประโชติปริยัติคุณ (ประเชิญ อายุวฑฺฒโก) รองเจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี เจ้าอาวาสวัดหลวงปรีชากูล พระครูถาวรโพธาภิรักษ์ ดร. (ถนอมศักดิ์ ถาวรธมฺโม) รองเจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี เจ้าอาวาสวัดธรรมโพธิ์ศรี (หาดยาง) พระครูรัตนสุทธิคุณ (โพธิ์ศรี ญาณวีโร) เจ้าคณะอำเภอกบินทร์บุรี เจ้าอาวาสวัดรัตนชมภู (หนองคร้อ) พระครูโสภณเวฬุพิทักษ์ (สำรวย สิริปญฺโญ) เจ้าคณะอำเภอศรีมโหสถ เจ้าอาวาสวัดไผ่งาม พระครูศรีธรรมวิสุทธิ์ (สนาม อริโย ป.ธ.๖) เจ้าคณะอำเภอนาดี เจ้าอาวาสวัดทับไทรธรรมาราม และพระสมยศ ขนฺติพโล วัดใหม่กรงทอง ร่วมเจริญชัยมงคลคาถาและอธิฐิษฐานจิตตักน้ำศักดิ์สิทธิ์
โดยเมื่อถึงเวลาอันเป็นอุดมมงคล พระครูประโชติปริยัติคุณ รองเจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี ประธานสงฆ์นำจุดธูปเทียนสักการะรอยพระพุทธบาทคู่ พระสงฆ์ทั้งนั้นสวดพระพุทธมนต์ถวายพรพระ แล้วเจริญพระปริตรจนได้เวลาสมควร พระครูถาวรโพธาภิรักษ์ ดร. รองเจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี ปักธูปเทียนบอกกล่าวแก่เทวดาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษารอยพระพุทธบาทคู่ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และบริเวณโบราณสถานสระมรกต จากนั้น คณะพระเถระและผู้ร่วมพิธีดึงสายภาชนะตักน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ นำขึ้นมาประมวลลงสู่ภาชนะรองรับ และส่งมอบให้เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรีเชิญน้ำศักดิสิทธิ์ที่อธิษฐานจิตตักจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองปราจีนบุรี บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์รอยพระพุทธบาทคู่ครั้งนี้ ไปประมวลลงในขันสาครเพื่อทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสกน้ำพระพุทธมนต์ ณ วัดใหม่กรงทอง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ในวันอาิทตย์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๖.๐๙ น. โดยมีเจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป
โบราณสถานรอยพระพุทธบาทคู่ วัดสระมรกต ถือได้ว่าเป็นรอยพุทธบาท ที่เก่าแก่ที่สุดของไทย เชื่อกันว่า มีอายุราว พุทธศตวรรษที่ ๑๔ ซึ่งรอยพระบาทคู่นี้ มีขนาดใหญ่มากสลักลงไปในพิ้นหินศิลาแลง เหมือนรอยเท้ามนุษย์ทั่วไป แต่กลางฝ่าพระบาททั้งสองข้าง แกะสลักเป็นรอยธรรมจักร ซึ่งรอยพระบาทนี้ขุดพบเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๒๙ และที่ด้านหน้าของ รอยพระพทธบาทคู่ ยังมีบ่อน้ำลึก เชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และยังมีแนวหินศิลา วางอยู่รายรอบไปทั่วบริเวณ คล้ายเป็นสถานอาคารสมัยเก่าแก่มีลักษณะตามผังอาคาร ในยุคสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ที่สร้างเป็นโรงพยาบาลรักษาผู้สมัยนั้น เรียกว่า อาคาร “อโรคยาศาลา” จึงเชื่อกันว่าน้ำในบ่อน้ำหน้ารอยพระพุทธบาทคู่เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ใช้รักษาโรคและมีความสิริมงคลอย่างยิ่ง ทำให้มีผู้ศรัทธาเดินทางมาจากที่ต่าง ๆ มาตักเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปประพรม บูชา หรืออาบเพื่อความเป็นสิริมงคลและรักษาโรคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
โดยน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธ์รอยพระพุทธบาทคู่วัดสระมรกตแห่งนี้ เป็นหนึ่งในสองแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดปราจีนบุรี ที่ใช้ในการตักน้ำศักดิ์สิทธิ์อัญเชิญไปใช้ในพระราชพิธีสำคัญเกือบทุกครั้ง โดยล่าสุดได้ประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์อัญเชิญไปในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบามสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๑๐) เมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๒