วันที่ 24 ม.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในบริเวณวัดเชียงทองบ้านศาลา หมู่ 8 ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ทางพระครูไพจิตร ธรรมภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเชียงทอง พร้อมด้วยสาธุชนตลอดจนญาติโยมทั้งในและต่างประเทศได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างหอระฆัง 9 ชั้น สูงกว่า30เมตร ขึ้นเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และ รัชกาลที่ 10 ใช้เวลาสร้างกว่า 10 ปี ซึ่งปัจจุบันเสร็จสมบูรณ์และจะมีการฉลองสมโภชในเดือนมกราคมนี้ ซึ่งจะมีสาธุชนและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างจังหวัดพากันมาเที่ยวชมภายในวัดและขึ้นชมทิวทัศน์บนหอระฆังสูง 9 ชั้นเพื่อชมทิวทัศน์ได้ 360 องศา ถึง 4 อำเภอของจังหวัดพะเยา หรือมองรอบได้ทั้ง 4 ทิศ จนถือว่าเป็นหอระฆังที่สูงที่สุด แห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา และยังเป็นหนึ่งเดียวของล้านนาอีกด้วย
พระครูไพจิตร ธรรมภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเชียงทอง ได้เล่าว่า การหอระฆัง 9 ชั้นทางวัดได้ดำเนินการสร้างมา 10 ปีแล้วซึ่งก็ได้มีการปรับปรุงตกแต่งทาสี ตั้งแต่ชั้นล่างสีเหลืองกลางสีเขียวและชั้นบนสีน้ำเงิน สำหรับที่ทาสีในแต่ละชั้นจะมีความหมายแตกต่างกันไป ตั้งแต่ชั้นล่างจนถึงชั้นบนสุด ซึ่งใช้เวลา ก่อสร้างนานถึง 10 ปี และจะได้เฉลิมฉลองสมโภชในวันที่ 27 มกราคม ที่จะถึงนี้ หอระฆังในวัดเชียงทองถือว่าเป็นหอระฆังที่สูงที่สุดในจังหวัดพะเยาและ เป็นหอระฆังหนึ่งเดียวในล้านนา ที่สูงและสวยงามที่สุดสร้างขึ้นอยู่ตรงจุดศูนย์กลางที่ตั้งของการมองเห็นด้วยตาเปล่า ได้ 4 อำเภอคืออำเภอเมืองพะเยา อำเภอแม่ใจ อำเภอภูกามยาวและอำเภอดอกคำใต้ หรือมองได้ 4 ทิศทาง ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ครบ 360 องศา และเมื่อขึ้นมาชมทิวทัศน์บนหอระฆังแล้วจะพบว่ามีลมเย็นๆ พัดผ่านตลอดเวลา และทางวัดจะเปิดให้บุคคลทั่วไปตลอดจนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวขึ้นหอระฆัง 9 ชั้นเพื่อดูชมทิวทัศน์
ปัณณวิชญ์ อยู่ดี จังหวัดพะเยา