ตำรวจน้ำดีใช้เวลาว่างเผาถ่านกัมมันต์เป็นรายได้เสริม
ส.ต.ท.ตรัยรัตน์ ปานรอด อายุ 33 ปี ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจท่องเที่ยว3 กองกำกับการ3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว3กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็น 1ในตำรวจน้ำดีที่ใช้เวลาว่างจากงานวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และก่อนไปปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเช้า โดยใช้ที่ดิน 1 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เผาถ่านกัมมันต์จากกะลามะพร้าว ที่เหลือจากร้านของภรรยาที่เปิดกิจการคั้นน้ำกะทิขายที่ตลาดสดเก็นติ้ง ซึ่งในแต่ละเดือนภรรยาต้องหาพ่อค้ามารับซื้อกะลามะพร้าวที่ขูดเนื้อแล้ว ที่ตั้งระเกะระกะอยู่ภายในร้านประมาณ 9,000 ลูก หรือ 18,000 ซีกต่อเดือน ซึ่งพ่อค้ารับซื้อในราคาเพียง 1,000บาท แถมยังเป็นภาระที่ต้องหาพ่อค้ามารับซื้อในแต่ละเดือนออกจากร้าน เพื่อที่จะนำลูกมะพร้าวชุดใหม่มาวางเพื่อขูดจำหน่ายน้ำกะทิ
โดยกะลามะพร้าวที่ขูดเนื้อแล้วที่ว่างระเกะระกะภายในร้านแต่ละเดือนจุดนี้ จึงเป็นแนวคิดที่มาของ ส.ต.ท.ตรัยรัตน์ ได้นำกะลามะพร้าวมาทดลองเผาถ่านกัมมันต์ โดยได้นำความรู้ที่เรียนจบสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ จากมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี โดยใช้ที่ดิน 1 ไร่ สร้างเตาเผาถ่านกัมมันต์ ซึ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ขนาด 1 เมตร ลึก 2 เมตร ส่วนด้านข้างทั้ง 4 ด้าน จะใช้ดินเหนียวผสมแกลบก่อปิดให้ทึบ แล้วเจาะช่องระบายควันและความร้อนออกจากเตา พร้อมทั้งใช้สังกะสีมุงเป็นหลังคา
ส่วนกระบวนการเผาถ่านกัมมันต์ด้วยกะลามะพร้าว เริ่มแรก นำถังเหล็กทรงกลมที่ใช้สำหรับบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิง ขนาด 200 ลิตร 1 ถัง นำไปวางไว้กลางเตาเผา ซึ่งสามารถนำกะลามะพร้าวที่บรรจุใส่ไว้ในกระสอบปุ๋ย จำนวน 2 ใบ นำมาใส่ไว้ในปริมาณที่เต็มพอดี จากนั้นให้เอาส่วนของฝาปิดของถังเหล็กทรงกลมที่ใช้สำหรับบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิง ขนาด 200 ลิตร มาปิดทับให้แน่น เมื่อถึงกระบวนการเผาก็จะนำท่อนไม้แห้งหรือกะลามะพร้าว มาวางเรียงโดยรอบของถังเหล็ก ขนาด 200 ลิตร จนมีปริมาณเท่ากับถังเหล็ก ขนาด 200 ลิตรพอดี จากนั้นจึงจุดไฟเผาท่อนไม้แห้งหรือกะลามะพร้าวที่เรียงไว้ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็จะได้ถ่านกัมมันต์จากกะลามะพร้าว แต่ยังไม่สามารถที่จะเอาออกมาใช้งานได้ ต้องทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง ปล่อยให้ถ่านกัมมันต์จากกะลามะพร้าวเย็นตัว จึงสามารถนำมาบรรจุกระสอบหรือเก็บกักไว้เพื่อรอจำหน่ายได้
ด้าน ส.ต.ท. ตรัยรัตน์ ได้เปิดเผยถึงตลาดถ่านกัมมันต์ว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อถ่านกัมมันต์ เป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายอาหารประเภทปิ้งย่างในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก และพ่อค้าแม่ค้ารอบนอกเขตเทศบาล โดยตนจะจำหน่ายในราคาปลีก ตกกิโลกรัมละ 20 บาท และจำหน่ายในราคาส่ง ตกกิโลกรัมละ 15 บาท โดยในแต่ละเดือนการเผาถ่านกัมมันต์มีปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด เนื่องจากถ่านกัมมันต์ให้ความร้อนสูงและเผาไหม้ช้ากว่าถ่านธรรมชาติ แถมยังไม่มีควันรบกวนและกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งตนเริ่มเผาถ่านกัมมันต์จากกะลามะพร้าวได้ประมาณเกือบ 2 ปี ทำให้เป็นที่รู้จักของพ่อค้าแม่ค้าที่บอกต่อกัน จึงมีแนวคิดจะสร้างเตาเผาเพิ่มอีก 1 ถึง 2 เตา ในระยะเวลาอันใกล้นี้ พร้อมกับศึกษาตลาดถ่านกัมมันต์ เมื่อสามารถผลิตถ่านกัมมันต์ได้มีปริมาณมากเพียงพอกับความต้องการของตลาด ส่วนที่เหลืออาจจะมีการติดต่อพูดคุยกับเจ้าของผู้ประกอบการผลิตเครื่องกรองน้ำ เพื่อซื้อถ่านกัมมันต์ที่ตนผลิตไปใส่ในอุปกรณ์เครื่องกรองน้ำ ซึ่งเป็นวัสดุอย่างหนึ่งที่ทำให้น้ำผ่านเครื่องกรองเป็นน้ำบริสุทธิ์ โดยในแต่ละเดือนจะมีรายได้เพิ่มจากเงินเดือนที่ได้รับแต่ละเดือน จากส่วนนี้ในขณะนี้เพิ่มเติมอีกกว่า 6,000 บาทต่อเดือน จากเวลาว่างที่มีก็รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนนำความรู้ที่เคยได้เรียนมากลับมาใช้เป็นประโยชน์ในการสร้างอาชีพเสริม
///////////////////////////////// 15 กันยายน 2561
นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ