มช.ฉลองครบรอบ 60 ปี ตั้งเป้าติดมหาวิทยาลัยโลกในอีก 10 ปี ข้างหน้า
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.66 ที่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนลทัล แม่ปิง เชียงใหม่ ได้ร่วมเปิด งานแถลงข่าวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำปี 2566 ซึ่งภายในงานนี้ ท่านอธิการบดีได้นำเสนอการเตรียมจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี การก่อตั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งจะจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2567 นี้
นับตั้งแต่การก่อตั้งมหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ. 2507 ก่อนเปลี่ยนสถานะเป็นมหาวิทยาลัย ในกำกับของรัฐ เมื่อ พ.ศ. 2551 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ยกระดับสู่นานาชาติมากขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมา ในปี พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยขับเคลื่อนโครงการต่างๆ อาทิ การขับเคงื่อนพลังงานอัจฉริยะผ่านเทคโนโลยี Blockchain , Digital Health , การสนับสนุนการวิจัยขั้นแนวหน้าของโลก และการประกาศตัวเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสตาร์ตอัป เป็นต้น และในทศวรรษที่ 7 ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (พ.ศ. 2567 – 2576) จะเป็นการนำมหาวิทยาลัยชั้นนำที่รับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยนวัตกรรม ทั้งด้านการศึกษา การวิจัย และการบริหารต่างๆ ซึ่งในปี พ.ศ. 2567 มหาวิทยาลัยจะขับเคลื่อนเรื่อง Creative Start Up , เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า , การพัฒนาศูนย์สุขภาพสวนดอก และความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี พ.ศ. 2575 ( ค.ศ. 2032 ) , การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City , การพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ในอนาคต , การสร้างบัณฑิตของมหาวิทยาลัยเป็นผู้สร้างงาน และการเพิ่มศักยภาพของบุคลากรของมหาวิทยาลัย เป็นต้น
โดยมหาวิทยาลัยตั้งเป้าหมายอยู่ใน 50 อันดับมหาวิทยาลัยแรกของโลก และผ่านการประเมินคุณภาพองค์กรในระดับ TAC+ (Innovation) รวมถึงสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่มหาวิทยาลัยจะส่งคืนแก่สังคมท้องถิ่น ประมาณ 3 เท่าของงบประมาณจากภาครัฐที่มหาวิทยาลัยได้รับมาจากภาครัฐ หรือมากกว่า 60,000 ล้านบาท
สำหรับกิจกรรมการฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะจัดขึ้นตลอดทั้งปี พ.ศ. 2567 จนถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2568 อาทิการประชุมวิชาการระดับชาติ , การแข่งขันกีฬาบุคลากรมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 40 , งานดนตรีไทยอุดมศึกษา ครั้งที่ 47 , คอนเสิร์ต 60 ปี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และงานเกษตรภาคเหนือ ครั้งที่ 11
โดยวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2567 จะมีการจัดพิธีทางศาสนา การมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติแก่บุคลากร นักวิจัย และศิษย์เก่า และการแสดงดนตรีเฉลิมฉลอง ครบรอบ 60 ปี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ณ สนามรักบี้ รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมสานศิลป์ กิน แอ่ว อู้ ร่วมกิจกรรมในวันนั้นด้วย.
ทรงวุฒิ ทับทอง