16 ธันวาคม 2566 ปัญหาการบุกรุกล้ำน้ำปิงเป็นปัญหาสร้างความเดือดร้อนกับประชาชน และเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติทำให้เกิดการเปลี่ยนทางเดินของลำน้ำ มีโทษตั้งแต่ปรับถึงจำคุกผู้ร้องเรียนส่งเรื่องถึงกรมเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ โดย นายพงษ์ธร ชำนิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกรมเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ ทราบเรื่องจึงได้ สั่งการให้ นาย สมพร คำปัน เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญการกรมเจ้าท่าจังหวัดเชียงใหม่ มาดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ที่ทางชาวบ้านได้ร้องเรียนไปถึงทางกรมเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่
ในวันนี้จึงได้มาตรวจสอบและหาทางให้ทั้งสองฝ่ายทั้งผู้ร้องเรียนและผู้ถูกร้องเรียน จะได้ร่วมหาทางแก้ปัญหาร่วมกันในทางที่ถูกต้องและไม่ผิดกฏหมาย ซึ่งมีทางฝ่ายปกครองโดยนายสรรเสริญ พงษ์พิพัฒน์ ปลัดอำเภอเชียงดาว มาทำการแทนนายอำเภอเชียงดาว หัวหน้าฝ่ายรังวัดที่ดินเชียงดาว และผู้อำนวยกองช่าง องค์การบริหารส่วนตำบลเชียงดาว และทางนายอดิศักดิ์ คุ้มเมือง นายศรีทอน วงค์เรือง ฯ เป็นตัวแทนผู้ร้องเรียน ขอความถูกต้องตามกฏหมาย และ นส.ชัชชษา ทัศนาโชตน์ ผู้ถูกร้องเรียนว่าปรับเปลี่ยนทางเดินของลำน้ำปิง พร้อมทั้งพยานทั้งสองฝ่ายที่มาร่วมหาแนวทางแก้ปัญหาให้ถูกต้องและไม่ละเมิดข้อกฏหมาย เกือบมีปัญหากัน แต่สุดท้ายก็หาทางออกได้โดยทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติตามกฏหมาย โดยทางส่วนราชการให้ทางนส.ชัชชษา ทัศนาโชตน์ ผู้ถูกร้องเรียน เจ้าของที่ว่าปรับเปลี่ยนทางเดินของลำน้ำปิง ได้สั่งให้ลื้อถอนเสาเข็มและสิ่งที่นำปักลุกล้ำลำน้ำปิงออกให้หมด แต่สามารถทำในพื้นที่ดินของตนเองได้ตามหลักโฉนด แต่ห้ามรุกล้ำลำน้ำ ถ้ายังขัดขืนทางกรมเจ้าท่าจะดำเนินการทางกฏหมายทันที ส่วนทางกลุ่มผู้ร้องเรียนหรือผู้อาศัยฝั่งตรงข้ามที่เสียหายก็พอใจที่ทางผู้บุกรุกยอมถอนและจะทำในที่ดินของผู้ถูกร้องเรียนเอง โดยทางผู้ถูกร้องเรียนนั้นได้มาชื้อที่ดินเพื่อทำธุรกิจ และยังมาอยู่ไม่นาน แต่ทางผู้ร้องเรียนหรือผู้อาศัยฝั่งตรงข้ามที่เสียหายแจ้งว่าอยู่อาศัยมานานกว่า40ปีในพื้นที่นี้ฉและรู้เห็นสายน้ำปิงมานานด้วย เมื่อพูดคุยและหาทางแก้ปัญหาได้แล้ว ทุกฝ่ายทั้งส่วนราชการและผู้ร้องเรียนพร้อมทั้งผู้ถูกร้องเรียนตลอดจนพยานทั้งสองฝ่ายได้จัดทำหนังสือในการร่วมตรวจสอบพื้นที่ในครั้งนี้ มีการรุกที่สาธารณะจริง10กว่าเมตร โดยกฎหมาย ให้ทางนส.ชัชชษา ทัศนาโชตน์ ผู้ถูกร้องเรียนว่าปรับเปลี่ยนทางเดินของลำน้ำปิงนั้น ให้ทำการรื้อถอนหลักเสาเข็มและสิ่งที่บุกรุกออกทั้งหมด และให้ออกแบบป้องกันตลิ่งของตนเองให้ถูกต้องตามหลักกฏหมายและถูกต้องตามหลักวิศวะกรรม แล้วให้ยื่นขอคำร้องเพื่อขออนุญาตก่อสร้าง ต่อสำนักงานกรมเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ ต่อไป ในครั้งนี้ยังไม่ดำเนินคดีตามกฎหมายแต่เป็นการแจ้งเตือน ถ้ายังทำการไดไดรุกล้ำลำน้ำปิง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางกรมเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โทษของการบุกรุกจะมีการปรับตั้งแต่ 1,000 บาท – 20,000 บาท ต่อตารางเมตร เพิ่มโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และคิดค่าปรับตั้งแต่วันที่บุกรุก ประชาชนควรเข้าใจเกี่ยวกับกฏหมายด้วยก่อนจะลงมือทำอะไรจะทำให้เดือดร้อนต่อตัวเองและผู้อื่น
นายสำราญ แสงสงค์ ข่าว