13 ธันวาคม 2566 นำตัวนายธัชเศรษฐ์ เชษฐาวัฒนานุกล อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 185 หมู่ที่ 19 บ้านแม่ใจ ตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ควบคุมตัว ชี้จุดปฏิบัติการก่อนการชิงทองและหลังชิงทอง โดยทาง พตอ.เกรียงศักดิ์ วงค์อุทัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฝาง พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวน สอบสวน และปราบปราม ร่วมทำการควบคุมตัว คนร้านชิงทองมาทำการชี้จุดทั้งก่อนปฏิบัติการและหลังปฏิบัติการ นำตัวผู้ต้องหามาชี้จุดซ่อนตัวหลังร้านข้าวมันไก่ข้างประตูเข้าโลตัสฝาง ก่อนจะลงมือเข้าชิงทองมาหยุดเพื่อสวมถุงมือผ้าดำ และสวมหมวกนิรภัย ซึ่งทางซ้ายมือจะเป็นร้านทองที่เตรียมการปล้นทองคำ แล้วได้นำตัวมาชี้จุดร้านทอง และชี้จุดที่ขึ้นชิงทองนำทองทั้งกะบะทอง ที่ร้านทองห้างโลตัส ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากมาดูการทำแผนและต่างพอใจในการปฏิบัติการของตำรวจไทย แล้ว นำตัวมาชี้จุดร้านขายของชำเพื่อชื้อถุงมือดำนำก่อเหตุ แล้วนำตัวไปชี้จุดเข้าบ้านเพื่อหลบหนี บ้านเลขที่ 185 หมู่ที่ 19 บ้านแม่ใจ ตำบลเวียง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และเก็บทองคำเพื่อวางแผนหาตลาดจำหน่าย
จากการสอบถามฝ่ายสอบสวนฝางทราบว่าคดีนี้มีหลายกรณีซึ่งต้องแยกเป็นคดี 1 เรื่องชิงทอง 2 เรืองปืน เจ้าหน้าที่นำตัวขึ้นรถควบคุมตัวฝากขังและทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกที่ ทราบว่า นำทองขายเพื่อจะไปทำธุรกิจทางการเงิน ชึ่งนำทองทั้งหมดประมาณ 300 บาท ขายในราคาบาทละ 20,000 บาท ได้ทั้งหมดประมาณ 6 ล้านบาท ซึ่งราคาทองคำรูปพรรณราคาจริง 33,300 บาท น่าจะได้เงินประมาณ 9,990,000 บาท ขายด่วนแต่ได้เงินมาจำนวนล้านกว่าบาทส่วนที่เหลือ ทางคนชื้อจะจ่ายอีกทีตอนที่ขายทองหมดก่อน นายธัชเศรษฐ์ เชษฐาวัฒนานุกล คนร้ายนำทองไปขายยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทางสืบสวนนั้นติดตามมาครึ่งเดือนแต่มั่นใจว่าจับได้ เพราะกระแส การขายทองนั้นกระจายไปทางกลุ่มคนขายทองทั่วไปหมด ถือเป็นความพยายามของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งภาค5 ภูธรเชียงใหม่ และภูธรฝาง ที่ร่วมกันสืบเสาะจนจับได้ตัวอย่างละม่อม และก่อนตอนเข้าจับตัวทางผู้ต้องหาจะใช้ปืนยิงตัวตายเพื่อหนีคดีแต่สืบสวนสามารถช่วยได้ทัน ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวฝากขังและจะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกทีว่ามีคนร่วมในการก่อเหตุหรือไม่ แต่เวลานี้ทางผู้ต้องหากล่าวว่าทำคนเดียว
นายสำราญ แสงสงค์ ข่าว