ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์สั่งเฉียบขาด สั่งชุดเฉพาะกิจลุยสางคดีตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุ ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีไม้พะยูงของกลางหายที่เทศบาลตำบลอิตื้อ อำเภอยางตลาด และกรณีตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุของโรงเรียนในสังกัด สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ขณะที่ผู้การกาฬสินธุ์ลั่น พร้อมรับสำนวนสางคดีให้ถึงที่สุด ด้าน กมธ.ปปช ฯ เรียกสอบชุดใหญ่พรุ่งนี้
วันที่ 12 ธันวาคม 2566 ห้องประชุมโปงลาง ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ ชั้น 2 นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้เรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีไม้พะยูงหายที่เทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด และกรณีตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุของโรงเรียนในสังกัด สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 เพื่อสอบถามความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีนายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะติดตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายวิทยา ปัญจมาตย์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ ว่าที่ร้อยตรีสุรสิทธิ์ ถิตย์สมบูรณ์ ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 นายเอกพล พรหมแสง ผู้แทนธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ และคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
การประชุมครั้งนี้ ได้เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมประชุมความคืบหน้า โดยมีการซักถามส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโดยตรง โดยเฉพาะธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ซึ่งนายไสว สะอาด ธนารักษ์ฯ คนเดิมได้ย้ายไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งมีผู้แทนจากสำนักงานธนารักษ์ฯเข้าประชุมแทน ขณะที่นายสุรเชษฐ์ พละเอ็น อดีต ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 คนเก่าได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว โดยมี ผอ.สปพ.กาฬสินธุ์ เขต 2 คนใหม่มาร่วมประชุม ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการซักถามข้อสงสัยหลายประเด็น แยกออกเป็นสาระสำคัญ 2 ส่วนคือ คดีไม้พะยูงของกลางหายที่เทศบาลตำบลอิตื้อ และตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุ พื้นที่ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ซึ่ง ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ได้รายงานในที่ประชุมวันนี้ว่าไม้พะยูงถูกตัดระหว่างปี 2565-66 ในโรงเรียน 10 แห่ง จำนวน 80 ต้น
นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้ซักถามเจ้าหน้าที่ธนารักษ์และผอ.สพป.เขต 2 เกี่ยวกับระเบียบ ข้อกฎหมาย ในการขออนุญาตตัด และให้อนุญาตตัดเพื่อจำหน่าย รวมทั้งเงินที่ได้จากการขายไม้พะยูง ซึ่งได้รับคำตอบว่าธนารักษ์ไม่ทราบมาก่อนว่า มีหนังสือคำสั่งของจังหวัดและคำสั่งจากกรมธนารักษ์ ตาม ว.20 ที่ให้ตัดเฉพาะต้นจำเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น รายได้จากการขายไม้นำส่ง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 และส่งเข้าหลวง
“ขณะที่จากการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เป็นการตัดโดยฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดและฝ่าฝืนคำสั่งตาม ว.20 ของกรมธนารัก์ อีกทั้งราคากลางก็ต่ำกว่าราคาของกรมป่าไม้เป็นอย่างมากอีกด้วย จึงได้สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจและคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดำเนินการสรุปผลโดยเร็วไว เพราะเรื่องนี้ จะต้องมีคนได้รับโทษ ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง หรือผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษตามกฎหมาย” ผวจ.กล่าวฯ
ด้าน พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ที่ทางตำรวจได้รับสำนวนเข้ามา เป็นในส่วนของคดีไม้พะยูงหายที่เทศบาลตำบลอิตื้อ โดยได้ออกหมายเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมารับทราบข้อหาแล้วทั้ง 8 คน โดยเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 4 คน คือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 2 คน และคนขับรถนายกเทศมนตรี ขณะที่อีก 4 คนคือนายกเทศมนตรีตำบลอิตื้อและเจ้าหน้าที่ป่าไม้อีก 3 คนยังไม่เข้ามา ก็จะได้ออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 แต่ในส่วนของคดีตัดไม้ในที่ราชพัสดุหรือในที่โรงเรียน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับการประสานแต่อย่างใด
พล.ต.ต.ตรีวิทย์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนคำนิยามของคำว่าพัสดุนั้น ทางตำรวจไม่ถือว่าไม้พะยูงเป็นพัสดุ เพราะเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ต้องหวงแหนรักษา จะตีค่าเป็นพัสดุเพื่อจำหน่ายไม่ได้ หากใครอนุญาตให้ตัดถือว่าบุคคลผู้นั้นมีความผิด ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้น ทั้งนี้ ในส่วนของการตัดไม้ในที่ราชพัสดุ จริงๆแล้วผู้เสียหายคือธนารักษ์พื้นที่ แต่ยังไม่เป็นใครมาแจ้งความร้องทุกข์ จึงอยากให้ธนารักษ์แสดงความบริสุทธิ์ใจ ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์บ้าง ดังนั้น ในการประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีตัดไม้พะยูงในวันนี้ จึงได้เสนอในที่ประชุมทราบและรับปฏิบัติเป็นทิศทางเดียวกันว่า เมื่อชุดเฉพาะกิจและคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงพบมูลความผิด ขอให้ส่งสำนวนมาที่ตำรวจได้เลย ทางตำรวจจะรับเรื่องและดำเนินการตามกฎหมายให้ทันที
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า วันที่ 13 ธ.ค.66 สำนักงานกรรมาธิการ 3 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกรณีตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุมาชี้แจง ประกอบด้วยตำรวจภูธรจังหวัด ธนารักษ์พื้นที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 กรณีการตัดไม้พะยูงเป็นเรื่องใหญ่ และสังคมกำลังจับตาดูว่าจะจบลงอย่างไร มีใครต้องรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้นบ้าง