งามหน้าสถานที่ท่องเที่ยวดังอำเภอสบเมย
ถูกแก๊งขโมยถอดล้อรถนักท่องเที่ยวเหลือแต่โครง
แก๊งขโมยแอบถอดล้อรถจักรยานยนต์ของนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยวและพักค้างแรม “ บนดอยพุ่ยโค ” ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เพิ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา คนร้ายได้ทำการถอดล้อรถทั้งสองออกไปเหลือไว้แต่โครงให้ดูต่างหน้ารายนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 10 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ( ไม่ทราบเวลาเกิดเหตุ)
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 11 ธันวาคม 2566 ทางศูนย์วิทยุ 191 ภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งจาก นักท่องเที่ยวว่า ได้มีแก๊งขโมยแอบถอดล้อรถจักรยานยนต์ของตนไปเหลือแต่โครงรถไว้ จึงขอแจังความผ่านทางศูนย์วิทยุเพื่อช่วยประสานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้หน่อย ต่อมาทางศูนย์วิทยุภูธรจังหวัดได้แจ้งไปยัง สภ.สบเมยทราบเพื่อดำเนินการสอบสวนด่วนเนื่องจากเป็นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง ร้อยเวรสอบสวน สภ.สบเมยเพื่อขอทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ก็ถูกปฏิเสธไม่ยอมให้ข่าวโดยอ้างว่าต้องไปขอจากผู้บังคับบัญชาอย่างเดียว กลัวจะเป็นข่าวดัง ทั้งๆที่สถานที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอำเภอที่กำลังจะสร้างเป็นซัพเพราเว่อร์ ด้านการท่องเที่ยว แต่กลับเกิดเหตุการณดังกล่าวทำให้เกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของผู้ที่มาท่องเที่ยว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังนายจักราวุฒิ เอกจันทร์ เจ้าของรถผู้เสียหายที่ถูกขโมยถอดล้อไปเล่าว่า รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวพสีดำ หมายเลขทะเบียน 1กค -7449 เชียงใหม่ ตนพร้อมเพื่อนอีกสองคนรวมเป็นสามคนได้ชวนกันขึ้นไปเที่ยวชมและพักค้างแรมบนดอยพุ่ยโค ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งของอำเภอสบเมย เมื่อพวกตนเดินทางไปถึงพื้นที่ลานจอดรถที่เขาเตรียมไว้เนื่องจากว่ามีรถจอดมากพอสมควรพวกตนจึงได้พากันจอดรถไว้ห่างจากลานจอดรถประมาณ 50 เมตรแต่เป็นทางโค้งนิดหน่อยเป็นที่ลับตา ทำให้ผู้ที่รับจ้างนอนเฝ้ามองไม่เห็นขโมยหรือไม่ก็คงจะหลับกันหมด พวกตนก็ได้เดินเท้าขึ้นไปยังบนยอดดอยใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงก็พักค้างแรกตลอดคืน พอตกสายมาก็ได้รับแจ้งจากผู้ดูแลลานจอดรถว่าพบรถจักรยานยนต์ถูกขโมยถอดล้อไปจำนวน 1 คันไม่ทราบว่าเป็นของใครพวกตนก็พากันรีบลงมาจากดอยเพราะเป็นห่วงรถของตนเอง แต่พอมาถึงก็ตกใจพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถของตนเอง ตนจึงโทรแจ้งไปยัง 191 ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อให้ทางตำรวจสบเมยขึ้นมาตรวจสอบ นายจกราวุฒิ ฯยังกล่าวอีกว่าคงจะเป็นพวกวัยรุ่น เนื่องจากว่าวันนั้นมีวัยรุ่นขึ้นไปเยอะ หากนำไปขายก็จะได้ประมาณ 4,000 บาทเพราะเป็นล้อแม๊ค นายจักราวุฒิกล่าว.
เกียรติศักดิ์ รักสัตย์ / เกียรติยศ รักสัตย์ ทีมข่าวภูมมิภาคประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน
