Uncategorized

ปัตตานี เเนวร่วมปาตานีดวงซวย!! หนีร้อนมาพึ่งเย็น หลังจนท.เข้าปิดล้อมพื้นที่ บังเอิญเจอกระท่อมบนกระชังปลาอยุ่ริมเเม่น้ำสายบุรี หลังหนีซุกหัวกบดานนานหลายเดือน พบปืนเอ็ม 16 เเละเครื่องกระสุน

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 4 ธ.ค.66 ที่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารที่ 44 อ.สายบุรี ปัตตานีจนท.ฝ่ายการข่าวของกอ.รมน.4สน. พร้อมสนธิกำลังทหารพรานชุดจรยุทธ ฉก.ทพ.44 ได้ปฏิบัติการเข้าปิดล้อมตรวจสอบพื้นที่ บริเวณบ้านบาโงยือริง หมู่ที่ 3 ตำบลบือเระ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ซึ่งได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวภาคประชาชนว่าพื้นที่ดังกล่าวอาจเป็นสถานที่หลบซ่อนพักพิงหรือซุกซ่อนอาวุธปืนของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ขณะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ บริเวณกระท่อมข้างกระชังเลี้ยงปลา ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 1 ราย ท่าทางมีพิรุธและได้โยนสิ่งของลักษณะเป็นท่อนยาวห่อถุงพลาสติกทิ้งลงในน้ำบริเวณข้างกระท่อม เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพบบุคคลต้องสงสัย ทราบชื่อ นายรุสดี ซอรอเอะ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 104/1 หมู่ที่ 3 ตำบลบือเระ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ต่อมาได้ประสาน หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (EOD) และหน่วยพิสูจน์หลักฐานจังหวัดปัตตานี เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าว ตรวจพบวัตถุพยานที่สำคัญ ประกอบด้วย 1. ชิ้นส่วนอาวุธปืนเล็กยาว ชุดลำกล้อง จำนวน 1 ชุด 2. ชิ้นส่วนอาวุธปืนเล็กยาว ชุดลั่นไกและพานท้าย จำนวน 1 ชุด 3. ซองบรรจุกระสุน ขนาดสั้น จำนวน 1 ซอง 4. กระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 70 นัด

โดยการดำเนินการเจ้าหน้าที่ได้มุ่งเน้นการปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนและหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดในทุกขั้นตอน และจากผลการซักถามเบื้องต้น นายรุสดี ซอรอเอะ ให้การยอมรับว่าอาวุธดังกล่าวตนเป็นผู้ดูแล โดยนายอับดุลเลาะ มูดอ เป็นคนนำมาให้เก็บดูแลประมาณ 2 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาตนได้เก็บอาวุธปืน จำนวน 3 – 4 กระบอก เป็นอาวุธปืนสงคราม M.16 และอาวุธปืน HK33 แต่นายอับดุลเลาะ มูดอ ได้นำพาออกไปแล้ว และรับคำสั่งจาก นายอับเลาะ มูดอ เพียงคนเดียว อีกทั้งยอมรับว่าคอยดูต้นทางให้กับ นายอับดุลเลาะ มูดอ ในการเดินทางกลับบ้าน สำหรับนายอับเลาะ มูดอ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 150/2 บ้านบาโงยือริง หมู่ที่ 3 ตำบลบือเระ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ / สั่งการในพื้นที่อำเภอสายบุรี มีหมายจับ จำนวน 5 หมาย และปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว นายรุสดี ซอรอเอะ ไปยังศูนย์ซักถามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามและขยายผลต่อไป

ทั้งนี้ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการรวบรวมวัตถุพยาน หลักฐาน ตรวจสอบหาความเชื่อมโยงของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือแบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ภาพข่าว/ตอริก สหสันติวรกุล ปัตตานี