วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 00.45.น.ร.ต.อ.สนธยาไชยวรรณ์ รองสว.(สอบสวน)สภ.ภูกามยาวรับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทบริเวณหน้าร้านมงคลมินิมาร์ท บ้านกว้านสันติสุข ม.13 ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา และมีผู้ ถูกแทงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต หลังรับแจ้งรถไว้ที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดกู้ภัยแพทย์นิติเวช เริ่มตรวจสอบและชันสูตร ศพ ผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 รายคือ มีนายกิตติพงษ์ วงศ์ไชย อายุ 34 ปี นายธวัชชัย ฟองจำ อายุ 39 ปี และนายอนุพงษ์ ทิศสุขใส อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่ง รพ.พะเยา ต่อมานายธวัชชัย ฟองจํา อายุ 39 ปี ถึงแก่ความตายที่ รพ.พะเยา
หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพะเยาและสภ.ภูกามยาวได้ทำการติดตามผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายสิรวิชญ์ สุพะยาอายุ21 ปี บ้านเลขที่674/7ต.เวียง อ.เมือง จ. พะเยา หลังเกิดเหตุได้หลบหนีกลับไปที่บ้านเจ้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมได้ที่บ้านพร้อมด้วยอาวุธมีดปอกผลไม้ยาว 8 นิ้วที่ใช้ในการก่อเหตุ มาทำการสอบสวน
จากการสอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ได้มีคู่กรณี 2 กลุ่ม คือผู้ต้องหา และกลุ่มคู่กรณี พากันมาเที่ยวงานลอยกระทงภายในบริเวณโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวอำเภอภูกามยาว หลังจากงานเลิกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาพบกันบริเวณหน้าร้านมินิมาร์ท หน้างานลอยกระทง โดยมีกลุ่มวัยรุ่น จำนวน 2 กลุ่ม ได้เจอกันและมีการท้าทายและไล่ชกต่อย ตะลุมบอลกัน อย่างชุลมุนจน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 คน 1. นายกิตติพงษ์ วงศ์ไชย 2. นายธวัชชัย ฟองจำ 3. นายอนุพงษ์ ทิศสุกใส เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน นำส่ง รพ.พะเยา ต่อมา นายธวัชชัย ฟองจำ ได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย
วันนี้11.00น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวนายนายสุรวิชญ์ สุพะยา มาทำการสอบสวนและสอบปากคำ ในเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ไม่มีเจตนาที่จะแทง คู่กรณีให้เสียชีวิต เพราะเกิดเหตุทะเลาะวิวาท อยู่ฝ่ายตรงข้าม ได้ร่วมทำร้ายจึงใช้อาวุธมีด แทงด้วยชกสวนกลับไป จะมีเหตุให้ผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ผู้ต้องหารับสารภาพว่า อุบัติเหตุได้มาที่งานลอยกระทง ตำบลดงเจนอภูกามยาว และได้พกอาวุธมีดมาด้วย และ ก่อเกิดเหตุได้มาเจอกลุ่มคู่กรณี ได้มีการท้าทายซึ่งกันและกัน จนมีการวิ่งเข้าทำร้ายซึ่งกันและกัน ทั้งสองฝ่ายจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่ไม่ได้ตั้งใจ จะทำให้เสียชีวิตแต่ทำไปเพื่อป้องกันตัว
ปัณณวิชญ์ อยู่ดี จังหวัดพะเยา
