“บิ๊กต่าย” แถลง ตำรวจ ปส. ทลาย 2 เครือข่ายค้ายา ภาคเหนือ และภาคอีสาน ยึดยาบ้ากว่า14 ล้านเม็ด ปะปนมากับแตงกวา และไอซ์ 100 กก.
หวังกระจายในพื้นที่ชั้นในตามนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นการจับกุมทำลายเครือข่ายวงจรยาเสพติด ยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด และเร่งรัดในการทำลายยาเสพติดของกลาง โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล
ผบ.ตร. ได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี มาดำเนินการ และได้สั่งการให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้รับผิดชอบงานยาเสพติด เข้าไปกำกับดูแลสั่งการ
ซึ่งวันนี้ ๒๔ พ.ย.๖๖ เวลา ๑๐.๓๐ น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. เป็นประธานการแถลงผลการกวาดล้างเครื่อข่ายยาสพติดรายใหญ่ ๒ เครือข่าย พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันดินวะชัย ผบช.ปส.. พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง,พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต. ธนรัชน์ สอนกลัา ผบก.ปส.6, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.๔,พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส. และ พล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. ด้าน ผบช.ปส. เผยว่า บช.ปส. จะเดินหน้าปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดทุกเครือข่ายอย่างหนัก รวมไปถึงการสืบสวนขยายผล ใช้เครื่องมือและกฎหมายที่มีอยู่เพื่อเอาผิดกับเครือข่ายและผู้ที่ร่วมกันให้การสนับสนุนเครือข่ายค้ายาเสพติดอย่างเด็ดขาด เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด ขณะเดียวกัน
ก็ได้ขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันยาเสพติดควบคู่ไปด้วย ล่าสุด ตำรวจ ปส. สามารถจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก ได้แก่ ไฮซ์ ๑๐๐ กก. และ ยาบ้า ๑๓,๔๐๐,๐๐๐ เม็ด คดีที่ ๑ ตำรวจ กก.๓ บก.ปส.. ร่วมกับตำรวจ บก.ขส. ร่วมกันสืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายที่มีพฤติการณ์ลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ กระทั่งช่วงบ่ายของวันที่ ๑๙ พ.ย. ที่ผ่านมา พบความเคลื่อนไหวกลุ่มเครือข่ายจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดน ด้าน จว.นครพนม ไปส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ตอนในประเทศ โดยใช้ถยนต์ หมายเลขทะเบียน xx ๖๑x
กรุงเทพมหานคร ในการลำเสียงยาเสพติด เจ้าหน้าที่ จึงประสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ ทหารกองกำลังสุรศักดิ์ มนตรี
ผ้าติดตามตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง พบรถเป้าหมายวิ่งไปตามถนนเส้นสกลนคร – อ.สมเด็จ จว.กาพสินธุ์ ต่อเนื่อง จวมหาสารคามก่อนจะมาจอดรถติสัญญาณฟจราจรที่บริเวณแยกวังยาว ต.เกิ้ง อ.เมือง จว.มหาสารคาม ตำรวจชุดจับกุมได้แสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมตรวจสอบพบ นายจักรกฤษ อายุ ๓๖ ปี ชาว จวกาพสินธุ์ เป็นผู้ขับขี่ ผลการตรวจค้นรถพบไอซ์ ซุกซ่อนในฝากระโปรงท้ายรถยนต์ รวมจำนวน ๑๐๐ กก. ด้านผู้ต้องหาให้การว่า ประมาณเดือนกันยายน ที่ผ่านมาได้รู้จักและไปทำงาน กับผู้รับเหมาก่อสร้างรายหนึ่งในหมู่บ้านโคกกลาง ต.ลำปาว อ.เมือง จว.กาฬสินธุ์ ที่ตนอาศัยอยู่ เมื่องานเสร็จผู้รับเหมาได้ย้ายไปที่อื่นตนจึงไม่มีงานทำ ก่อนจะโทรศัพท์ติดต่อเพื่อของานกับผู้รับเหมารายนี้ จึงแนะนำให้ตนขับรถขนยาเสพติดและถูกจับกุมดังกล่าวซึ่งหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่จะขยายผลหาตัวการใหญ่ในการว่าจ้างลำเสียงยาเสพติดจำนวนนี้ต่อไป เบื้องต้น แจ้งข้อหา “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท ๑ (สาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายคดีที่ ๒ ตำรวจ บก.สกส. จับกุม ๓ ผู้ต้องหา คือ นายไตร, นายสมชาย และ เยาวขน ๑ ราย หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีเครื่อข่ายยาเสพติดเตรียมลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ ว.เชียงใหม่ เพื่อไปส่งให้กับเครื่อข่ายในพื้นที่ จว.นครศรีธรรมราชโดยบรรทุกมากับกระบะแบบมีคอก และ มีรถนำเส้นทางอีก ๑ วัน กระทั่งวันที่ ๑๔ พ.ย. ที่ผ่านมา พบความเคลื่อนไหวของรถเป้าหมายคือ รถกระบะหมายเลขทะเบียน xX ๙๒x* เชียงใหม่ และ รถยนต์หมายเลขทะเบียน xX ๕X เชียงใหม่ กำลังเดินทาง
ลงสู่พื้นที่ภาคใต้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงตรวจสอบพบว่ารถได้ขับผ่านพื้นที่ อ.ท่าแชะ จว.ชุมพร แต่ไม่พบรถออกนอกพื้นที่ จึงคาดว่าอาจจะหลบพักอยู่ในพื้นที่ กระทั่งพบรถกระบะจอดพักบริเวณรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จว.ชุมพร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าตรวจสอบพบว่ารถยนต์คันแรก มีนายไตรภพ เป็นผู้ขับขี่ ให้การว่า ขับรถบรรทุกแตงกวามาเต็มคันรถเพื่อไปส่งลูกค้าที่ จว.นครศรีธรรมราช ส่วนรถคันที่ 6 มีนายสมชาย เป็นผู้ขับขี่ และมีเยาวชน ๑ ราย โดยสารมาด้วย เมื่อนายสมชายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สารภาพว่าได้ขับรถนำสำรวจเส้นทาง สำรวจด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ ให้กับรถยนต์ที่ซุกซ่อนยาเสพติดมากับแตงกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวผู้ต้องหา และรถทั้งหมดไปตรวจเอ็กซ์เรย์ที่ด่านตรวจยานพาหนะท่าแซะ จว.ชุมพรของ กก.๒ บก.ปส.๔ พบยาบ้าถูกซุกซ่อนอยู่ร่วมจำนวน ๑๓,๔0๐,000 เม็ด สอบถามผู้ต้องหา ให้การว่ายาเสพติดของกลางดังกล่าวเป็นของตนเองจริง ซึ่งมีคนว่าจ้างให้ไปรับยาเสพติดในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด
ให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท ๑ (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และเป็นการก่อให้ เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
สำหรับเดือน ตุลาคม ๒๕๖๖ – ปัจจุบัน ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส. ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ๓๔ คดี ผู้ต้องหา ๕๘ คน ของกลาง ยาบ้า ๓๔,๖๐๑,๖๒๔๓ เม็ด, ไอซ์ ๘๗๒.๗๖ กก. เฮโรอีน ๒๕.๘๙ กก, โคเคน ๓.๖๑ กก. และตรวจยึดทรัพย์ ไว้ตรวจสอบมูลค่าประมาณ ๑๓๑.๖๒ ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ขอขอบคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวสาร
ศุภชัย หงษ์รัตนาภรณ์ ผู้สื่อข่าว