จับสองหนุ่มเมียนมาร์ ฆ่าโหด หนุ่มไทย หลังทะเลาะกันกลางวงเหล้า สาเหตุยืมรถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิตไปใช้แล้วเสียหายไม่ซ่อมจึงมีปากเสียง ทะเลาะชกต่อย ฆ่ากันตาย
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 20.15 น.โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.พิษณุ สมนึก ผกก.สภ.ขุนยวม , พ.ต.ท.สมาน มหาวัน รองผกก.สส.สภ.ขุนยวม , พ.ต.ท.เจษฎา ดวงใย รอง ผกก.ป.สภ.ขุนยวม
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สภ.ขุนยวม นำโดย พ.ต.ท.นิติศักดิ์ แสงนาค รอง ผกก.สอบสวน สภ.ขุนยวม ,พ.ต.ท.เสกสิทธิ์ นันตาสืบ สวป.สภ.ขุนยวม, พ.ต.ต.จรูญ กองจันทร์ สว.สส.สภ.ขุนยวม , ร.ต.อ.ประสงค์ ไชยองค์การณ์ รอง สวป. สภ.ขุนยวม , ด.ต.พิทักพล โพธินาม , ด.ต.อภิเชฐ อินทรัตน์ ด.ต.ป๋อง วงศ์ษา , ด.ต.ศุภชาติ สุริยะ , จ.ส.ต.อโณทัย ศรีพวงแก้ววิไล พร้อมกับพวกได้ร่วมกันจับกุมตัว 1.นายจอมูหนะ (ไม่มีชื่อสกุล ) อายุ 21 ปี เชื้อชาติกระเหรี่ยง สัญชาติพม่า 2. นายอาชิ (ไม่มีชื่อสกุล ) อายุ 27 ปี เชื้อชาติกระเหรี่ยง สัญชาติพม่า
พร้อมด้วยของกลาง 1.เหล็กสี่เหลี่ยมสีฟ้าความยาวประมาณ 45 เซนติเมตร 2.เหล็กสีนำตาลความยาวประมาณ 80 เซนติเมตร 3.เสื้อยึดสีเขียวและกางเกงวอร์มสีกรมท่า(นายอาชิสวมใส่ขณะก่อเหตุ) 4.เสื้อกีฬาแขนสั้นสีฟ้าดำกางเกงยีนขายาวสีดำ(นายจอมูหนะสวมใส่ขณะก่อเหตุ) โดยกล่าวหาว่า 1.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 19.47 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนยวม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ขุนยวม ว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายจนมีผู้เสียชีวิต บริเวณ อู่เคาะ พ่นสี รถยนต์ ไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่จึงได้รีบไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบนายจอมูหนะฯ(ทราบชื่อภายหลัง)นายอาชิฯ(ทราบชื่อภายหลัง)และนายซอเคทู(ทราบชื่อภายหลัง) อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุจึงได้ควบคุมตัวทั้ง3คนมาที่ สภ.ขุนยวมเพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม จากการสอบถามทราบว่า นายจอมูหนะฯและนายอาชิฯ ได้นั่งดื่มสุรากับ นายสมภูมิ กองแก้ว (ผู้เสียชีวิต) จากนั้นได้เกิดมีปากเสียงกันเนื่องจากนายอาชิฯ ได้ยืมรถจักยานยนต์ของผู้เสียชีวิตไปและได้ทำรถจักยานยนต์ของผู้เสียชีวิตเสียหายจนมีปากเสียงจนถึงขั้นชกต่อยกันซึ่งนายจอมูหนะฯและนายอาชิฯ ได้ใช้ของกลางลำดับที่ 1 และ 2 ตีไปที่ศีรษะของ นายสมภูมิฯ จนทำให้ นายสมภูมิฯ ถึงแก่ความตาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจเอกสารแต่นายจอมูหนะฯและนายอาชิฯ ไม่สามารถแสดงบัตรประจำตัวหรือเอกสารใดๆที่ทางราชการออกให้ได้ นายจอมูหนะฯและนายอาชิฯ ยอมรับว่าตนเป็นบุคคลต่างด้าวจริง โดยนายจอมูหนะฯและนายอาชิฯสามารถสื่อสารและฟังภาษาไทยได้เป็นอย่างดี นายจอมูหนะฯและนายอาชิฯยอมรับว่าได้ทำร้ายร่างกายของ นายสมภูมิฯ จนเป็นเหตุถึงแก่ความตายจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้ นายจอมูหนะฯและนายอาชิฯ ทราบว่า “1.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
นายจอมูหนะฯและนายอาชิฯ ทราบถึงสิทธิและข้อกล่าวหาดีแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนี้ได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขุนยวม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนทำการควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป.