ชัยภูมิ 3/9/61 ตร.รวบแล้ว6โจ๋หญิงชายตามไล่ยิงรุมตีนศ.คู่อริถึงในหอพักอ้างแค่เขม่นหึงกันกลางผับดัง
จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย สลดพบผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่ยังเป็นเยาวชนอายุตั้งแต่ 16-20 ปี รับสารภาพก่อเหตุเพราะความเมาในผับดังก่อนมีเรื่องเขม่นกันด้วยความหึงหวงของฝ่ายหญิงของแต่ละฝ่ายที่มากับฝ่ายชายของตนเองไปจีบสาวฝ่ายอื่น จึงตามออกมาดักรอทำร้ายกันหน้าผับดังและตามไล่ใช้ปืนบุกเข้าไปในหอพักซึ่งผู้ต้องหารายนี้ได้อ้างในเบื้องต้นว่าเป็นเพียงปืนปลอมนำติดตัวมาด้วยเพื่อใช้ขู่ฝ่ายอริเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ซึ่งทางจนท.ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ และจะขยายผลถึงสถานบันเทิงดัง ที่ก่อนหน้านี้เคยถูกจับดำเนินปล่อยเด็กต่ำกว่า20ปีเข้าไปใช้บริการมั่วสุมดื่มสุราและจำหน่ายสุราให้เด็กอายุต่ำกว่ากฏหมายกำหนดมาแล้วช่วงเดือนเศษที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการเสนอผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ พิจารณาสั่งปิดสถานบันเทิงแห่งอยู่ในขณะนี้ด้วยต่อไปแล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 3 ก.ย.2561 พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชัยภูมิ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนวัฒน์ ภัคคะธนิตศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชัยภูมิ พร้อมกองกำกับการชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.ชัยภูมิ เร่งติดตามคดีความคืบหน้าหลังเกิด เหตุอุกอาจมีกลุ่มวัยรุ่นทั้งชาย และหญิง อายุไม่เกิน 20 ปี จำนวนกว่า 10 คน พร้อมมีอาวุธปืนครบมือ ทั้งมีด ออกมาดักทำร้ายกันที่หน้าสถานบันดังย่านถนนสายชัยภูมิ –บ้านเขว้า และยังไล่ติดตามไล่ยิงทำร้ายกันในเคหะสถานภายในหอพักดังชื่อ PB อพาร์ทเม้นท์ หมู่ 9 บ้านขี้เหล็กใหญ่ เลขที่ 122/2 ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ เมื่อช่วงกลางดึกเวลา 03.00 น.ของวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา
จนมีการแชร์คลิปจับภาพของผู้ก่อเหตุที่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนหญิง ชาย จำนวนมาก จากกล้องวงจรปิดภายในหอพักครั้งนี้ไปทั่วโลกโซเชียล
จนมีกลุ่มเด็กเยาวชนอีกฝ่ายที่อาศัยอยู่ในหอพักได้รับบาดเจ็บสาหัสรวม 3 คน ซึ่งมี น.ส.นงนภัส สิงห์อุดม อายุ 21 ปี จนฟันหัก 4 ซี่ ขณะนี้เองยังอาการสาหัสต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยภูมิอยู่ในขณะนี้มีอาการหนักสุด และมีวัยรุ่นชายวัย 20 ปี และ 18 ปี อีก 2 รายได้รับบาดเจ็บถูกรุมตีบอบช้ำทั่วร่างกายและ โดยเฉพาะรายที่เป็นเยาวชนอายุ 18 ปี อีกหนึ่งรายในครั้งนี้ ที่ถึงเกือบเอาชีวิตตัวเองไม่รอดถูกตามไล่ยิงเข้ามาในหน้าห้องพักครั้งนี้ด้วย ที่ครั้งนี้โชคยังดีกระสุนปืนด้านปืนยิงไม่ออกโดนตัวเอง ไม่ใช่นั้นคงไม่มีชีวิตเหลือมาทุกวันนี้แล้ว ก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าห้องพักหลบหนีจากการตามถูกทำร้ายครั้งนี้มาได้อย่างหวุดหวิด
และพากันรอดูว่ากลุ่มโจ๋ที่ตามมากลับกันออกไปหมดยังอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะพากันออกมาถามดูอาการเพื่อน เพื่อพากันเดินทางรักษาอาการบาดเจ็บ และได้พากันไปเข้าแจ้งความเพิ่มเติมในครั้งนี้ต่อ ร.ต.อ. ศิริ จันทร์ดีศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เพิ่มเติมมาต่อเนื่องตั้งแต่วานนี้ที่ผ่านมา
จนล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 3 ก.ย.2561 หลังพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ ได้สั่งเร่งคลี่คลายคดีนี้ จนล่าสุดครั้งนี้ ด้านพ.ต.อ.ธนวัฒน์ ภัคคะธนิตศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ ได้เป็นหัวหน้าชุดนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้ติดตามตัวกลุ่มโจ๋ทั้ง หญิง ชาย ที่ก่อนเหตุทั้งหมดครั้งนี้มาได้แล้ว
จำนวน 6 คน เพื่อนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาแถลงผลการติดตามจับกุม ณ ห้องประชุมรามสมภพ กองบังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ แล้วในครั้งนี้ด้วย
โดยพ.ต.อ.ธนวัฒน์ เปิดเผยว่า ล่าสุดวันนี้ได้มีการจับกลุ่มโจ๋หญิงชาย ที่ร่วมกันก่อเหตุในภาพกล้องวงจรปิดได้ทั้งหมดแล้วที่หลบหนีไปอยู่บ้านของแฟนสาวอยู่ที่ อ.หนองบัวแดง หลังห่อนเหตุ รวม 6 คน ซึ่งเป็นหญิง 4 คน ที่น่าสลดเพราะยังเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี มีอายุตั้งแต่ 16 17 รวม 4 ราย และผู้ต้องหาที่เป็นชาย ร่วมด้วย 2 คน ที่ประกอบด้ายนายย่า หรือพิษณุ วงค์สีลา อายุ 20 ปี ที่เป็นผุ้ถืออาวุธปืนสั้น ตามไล่ยิงอีกฝ่ายในหอพักดังกล่าว และนายสุขุม หรือตาล ขำชัยภูมิ อายุ 20 ปี
ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ที่ก่อเหตุครั้งนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะด้วยความเมาสุราในผับดังกล่าว จึงเกิดไปมีเรื่องเขม่นกันในผับดังกล่าวกับฝ่ายเยาวชนอีกฝ่ายขึ้น ที่ฝ่ายผู้ก่อเหตุทางแฟนสาวเห็นว่านายตาลเอง ไปยืนเต้นจีบสาวของอีกฝ่าย จึงเกิดความหึงหวงระหว่างฝ่ายหญิงที่มาด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ที่พยายามจะทำร้ายกันอยู่ภายในผับดังกล่าวแล้ว
ก่อนที่ฝ่ายเยาวชนในหอพักจะพากันหนีออกมา และยังถูกฝ่ายหญิง ชาย ทั้ง 6 คนผู้ร่วมก่อเหตุดังกล่าว ตามออกมาดักรอทำร้ายกันจับหัวศรีษะของน.ส.นงนภัส อายุ 21 ปี พาดกับพื้นที่หน้าผับดังจนฟันหัก ก่อนที่กลุ่มเยาวชนที่ถูกดักทำร้ายจะพากันหลบหนี มาที่หอพักดังกล่าว
กลุ่มผู้ก่อเหตุยังไม่พอใจตามขับ จยย.มาตามทำร้าย รุมเตะ ต่อย หน้าหอพักต่อเนื่องอีก และนายย่า ฝ่ายชายที่คุมทีมฝ่ายหญิงมาก่อนเหตุ ครั้งนี้ ได้พากันบุกถืออาวุธคล้ายปืนดังกล่าว ตามเข้าไปภายในหอพักไล่ยิง เสียงดังกลไกปืนไม่น้อยกว่า 3 นัด ดังกล่าว ที่ผู้ถูกบุกทำร้ายครั้งนี้ต่างพากันตกใจจนสุดขีดที่คิดว่าไม่น่าจะรอดชีวิตมาได้ครั้งนี้แล้ว เพราะปืนดังกล่าวเกิดด้านกระสุนยิงไม่ออกเท่านั้น
ซึ่งในกรณีอาวุธปืนที่พบในภาพวงจรปิด ผู้ต้องหารายนี้อ้างว่า ไม่ใช่ปืนจริง เป็นเพียงปืนปลอมที่นำติดตัวมาด้วยเพื่อไว้ใช้ขู่คู่อริเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ซึ่งทางจนท.ตร.สามารถไปติดตามอาวุธปืนดังกล่าวมาได้เบื้องต้นแล้ว ก็พบว่าเป็นปืนปลอมจริง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นปืนอันเดียวกันที่ใช้ก่อเหตุครั้งนี้ตรงกับในภาพวงจรปิดด้วยหรือไม่ต่อไปในครั้งนี้ด้วย
ก่อนที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุบุกไล่ยิง ทำร้ายวัยรุ่นด้วยกันในครั้งนี้ส่งดำเนินคดีเบื้องต้น ในข้อ 1 ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นอันตรายได้รับบาดเจ็บสาหัส 2.ร่วมกันเกินกว่า 2 คน บุกบุกเคหะสถาน และ3.ใช้อาวุธปืน หรืออาวุธสิ่งเทียมคล้ายอาวุธรุนแรง ข่มขู่จิตใจร่างกายทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ตามกฏหมายต่อไป
และนอกจากนี้ในส่วนของสถานบันเทิง ผับดังกล่าว ที่ก่อนหน้านี้ยังเคยถูกจับดำเนินดี ที่ยังมีพฤติกรรมปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ และจำหน่ายสุราให้เด็กอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนด ที่ถูกดำเนินคดีมาแล้วในช่วงเมื่อเดือนเศษที่ผ่านมา และยังอยู่ในระหว่างที่รอการพิจารณาสั่งปิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การพิจารณาจากทางผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ อยู่ขณะนี้เพิ่มเติมต่อไปอีกด้วยเช่นกัน////
คำหอม ชุมชน 02 ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ//รายงาน