กมธ.พัฒนาสังคมฯ จัดเสวนา “เด็กกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคม : กรณีการใช้อาวุธปืน”
วันที่ 6 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ CA 331 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา จัดเสวนา เรื่อง “เด็กกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคม : กรณีการใช้อาวุธปืน” โดยมี นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวเปิดการเสวนา พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ นายอนุพร อรุณรัตน์ นางสุนี จึงวิโรจน์ สมาชิกวุฒิสภา และหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนองค์กรเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการเสวนา
.
สำหรับการเสวนาในวันนี้ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมเสวนาเพื่อร่วมหาแนวทางการป้องกันและลดความรุนแรงในสังคมไทย โดยเฉพาะการใช้อาวุธปืนของเด็ก ซึ่งมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็น อาทิ แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อดีตอธิบดีกรมสุขภาพจิต ซึ่งกล่าวถึงระบบนิเวศของเด็กโดยครอบครัวเป็นส่วนสำคัญในการทำความเข้าใจในสถานการณ์ เด็กทุกคนควรได้เติบโตโดยมีการดูแลโดยทักษะของพ่อแม่ ซึ่งความสัมพันธ์ของครอบครัวเป็นพื้นฐานสำคัญ
.
รองศาสตราจารย์นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี แสดงข้อห่วงใยถึงการเข้าถึงอาวุธปืนในประเทศไทย ที่มีการครอบครองหาซื้อได้ง่ายผ่านทางระบบออนไลน์ ตลอดจนระบบความปลอดภัยในจุดสถานที่สำคัญต่าง ๆ ที่ไม่มีระบบคัดกรองที่ชัดเจน ตลอดจนระบบการแจ้งเตือนความปลอดภัย (Emergency Alert System) และระบบกฎหมายในประเทศไทยที่ไม่เข้มงวด
.
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ สมาชิกวุฒิสภา แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่าเป็นพหุปัจจัย ที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าปัจจัยใดสำคัญกว่าปัจจัยใด ซึ่งเมื่อยังไม่ทราบว่าปัจจัยใดมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดจึงทำให้เกิดการดำเนินการทุกปัจจัย ทั้งนี้มีความจำเป็นที่จะต้องทราบว่าปัจจัยใดมีส่วนสำคัญเพื่อจะนำไปสู่การแก้ปัญหาได้ตรงจุด โดยจะต้องหาวิธีการสรุป ทำวิจัยทางสังคมศาสตร์ เป็นต้น
.
สำหรับการเสวนาในครั้งนี้มีผู้แทนจากองค์กรเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อประเด็นดังกล่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งมีปัจจัยหลายด้านที่เกี่ยวข้อง อาทิ ครอบครัว การศึกษา สังคม สิ่งแวดล้อม ชุมชน สื่อ ศีลธรรม กฎหมาย การเมือง และเศรษฐกิจ ภายหลังจากการเสวนาคณะกรรมาธิการฯ จะได้หารือร่วมกับวุฒิสภาและเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติต่อไป
ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน
