วันที่ 12 ก.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนตกซุกเทพธิดาดอยหรือหน่อไม้ไผ่รวกผุดหน่อโผล่ตามป่าเขาบนดอยสูง ชาวบ้านบ้านปิน ตำบลบ้านปิน อำเภอ ดอกคำใต้ จ.พะเยา จึงพากันเดินทางเข้าป่า หาหน่อไม้ไผ่ไร่ หรือหน่อไร่ ที่ชาวบ้านเรียกกัน เพื่อนำมารับประทานขายและนำไปต้มอัดปี๊บเพื่อจำหน่าย ซึ่งช่วงนี้ฝนตกซุก หน่อไม้ไผ่ไร่เริ่มผุดแทงหน่อออกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ป่าบนเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์และเป็นป่าที่ปลอดสารเคมี เนื่องจากบนพื้นที่ป่าบนเขานั้นไม่มีการทำไร่เลื่อนลอยหรือทำสวนแต่อย่างใด จึงทำให้สภาพดินเป็นดินที่ดีอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้หน่อไม้ไผ่ไร่ มีรสชาติที่หวาน กรอบ อร่อยและเป็นที่ต้องการของผู้ที่นิยมรับประทานหน่อไม้ดังกล่าว ชาวบ้านจึงพากันออกขุดหาหน่อไม้เพื่อนนำมาขาย-กิน และทำหน่อไม้ปี๊ปไว้ขายตอนช่วงหมดฤดูหน่อไม้ 1ปี มีเพียง1ครั้ง ที่หน่อไม่ไผ่ไร่ แทงหน่อ ทำให้ชาวบ้านพากันขุดหน่อไม้ไร่มาขายและรับประทาน ซึ่งราคาหน่อไม้ไผ่ไร่ดิบซื้อขายราคากก.ละ10 บาท สูงจึงทำให้บางรายสามารถสร้างรายได้ในการหาหน่อไม้ชนิดนี้ในช่วงนี้ได้มากถึงวันละกว่า 1,000 บาท และยังทำหน่อไม้อัดปี๊ปขายปี๊ปละ 350 บาท สร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้านและชุมชนด้วย
นางนูน เผ่าต๊ะใจ อายุ 51 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบ้านปิน ระบุว่า พื้นที่ป่าช่วงนี้อย่างฝนตกมีความอุดมสมบูรณ์และหน่อไผ่ไร่ นั้นจะออกเป็นจำนวนมากในช่วงนี้ และได้ออกหาขุดหาหน่อไม้ไผ่ไร่จะตั้งแต่เช้ามืดจนถึงช่วงบ่ายก็จะนำหน่อไม้มาขายส่งให้กลุ่มแม่บ้าน ในเขตพื้นที่ตำบลบ้านปิน ในกิโลกรัมละ 10 บาท แต่ละวัน จะหาหน่อ ไม้ไร่ได้ประมาณ วันละ 30-50 โลสามารถสร้างรายได้วันละ ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท สำหรับช่วงนี้หน่อไม้ไผ่ไร่ กำลังที่จะเริ่มออกมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นปลายฝนต้นฤดูหนาว
ด้านนาง จัทร์เป็ง อินต๊ะสุวรรณ สมาชิกในกลุ่มหน่อไม้อัดปี๊บตำบลบ้านปิน ได้กล่าวว่า การทำหน่อไม้ปี๊บของกลุ่มแม่บ้าน บ้านงิ้วหงก หมู่ 2 ตำบลบ้านปิน อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา 1ปีจะมีเพียง 1 ครั้งเนื่องจากหน่อไม้ไผ่ไร่ จะออกตามฤดูกาล ช่วงปลายฝนต้นหนาว ชาวบ้านจึงได้รวมกลุ่มรับชื้อ หน่อไผ่ไร่ในราคากิโลกรัมละ 10 บาท เพื่อนำมาทำเป็นหน่อไม้ปี๊ป ขายช่วงนอกฤดูกาล หลังจากรับซื้อหน่อไผ่ไร่มาแล้วก็จะนำมาคัดตัดแต่งขนาดให้มี ความยาวเท่ากัน และนำล้างด้วยน้ำสะอาด 3 น้ำและใช้น้ำฝนล้างอีก 2 น้ำจากนั้นทำการบรรจุใส่ปี๊บให้ได้น้ำหนัก 13 กิโลกรัม และนำไปต้มจนได้ที่ จึงปิดฝาปี๊ปด้วยแผ่นสังกะสัและเชื่อมด้วยตะกั่ว และเก็บไว้เพื่อรอจำหน่าย หลังหมดฤดูกาลหน่อไม้ไผ่ไร่ และเป็นการถนอมอาหาร ที่ชาวบ้าน ทำสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับหน่ออัดปี๊บจัดจำหน่ายปี๊บละ 350 บาท ซึ่งสามารถสร้างรายได้ เข้ากลุ่มปีละแสนกว่าบาท หน่อไม้ไผ่ไร่นั้นจะสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูทั้ง ต้ม แกง ผัด ยำ จึงเป็นที่นิยมของชาวบ้านในการนำมารับประทาน และใน 1 ปีมีเพียง 1 ครั้งที่หน่อไผ่ไร่สดมีกินได้เพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้นในช่วงนี้ จึงทำให้ชาวบ้านรวมกลุ่มเพื่อนำหน่อไม้ไผ่ไร่ อัดปี๊บ ไว้กินนอกฤดูกาล และเป็นการถนอมอาหารที่ชาวบ้านสืบทอดกันมา และสร้างรายได้ ให้แก่ชุมชนและกลุ่ม
ปัณณวิชญ์ อยู่ดี จังหวัดพะเยา