ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์คุมเข้มเด็กแว้นแถลงผลการกวาดล้างการแข่งรถในทาง พร้อมทำลายท่อไอเสียรถจักรยานยนต์เสียงดังผิดกฎหมาย พร้อมเดินหน้ากวดขัน จับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ
วันที่ 7 กันยายน 2566 ที่บริเวณหน้าอาคารตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจทั้ง 23 แห่งได้ร่วมกันแถลงผลการกวาดล้างการแข่งรถในทาง และทำลายท่อไอเสียรถจักรยานยนต์เสียงดังผิดกฎหมาย โดยในห้วงระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 6 กันยายน 2566 ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์
โดยได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการแข่งขันรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง มีผลการปฏิบัติดังนี้ ตรวจสอบร้านจำหน่ายอะไหล่ และร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ จำนวน 138 แห่ง ไม่พบร้านจำหน่ายอะไหล่รถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้มาตรฐาน, ตรวจยึดท่อไอเสียรถจักยานยนต์เสียงดังผิดกฎหมาย จำนวน 554 ท่อ และจับกุมข้อหาผู้ขับขี่ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถย้อนศร ขับรถขณะเมาสุรา ข้อหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่ รวมทั้งสิ้น 2,122 คน ซึ่งในการแถลงข่าวยังมีตัวแทนนักเรียน นักศึกษา และเยาวชนมาร่วม เพื่อนำข่าวสารไปบอกกล่าวกับกลุ่มเพื่อนอีกด้วย
นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัญหาการแข่งรถในทางของกลุ่มวัยรุ่น ได้สร้างความเดือดร้อนและมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน จังหวัดกาฬสินธุ์โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญด้วยการเข้มงวดกวดขันอย่างต่อเนื่อง โดยในเบื้องต้นได้ขอความร่วมมือไม่ให้มีการรวมกลุ่มเพื่อแข่งรถในทาง แต่ถ้าหากไม่เชื่อฟังเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
ด้านพล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ผู้ปกครอง สถานศึกษา ได้ให้ความร่วมมือสอดส่องดูแลบุตรหลาน ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการคุมเข้ม กวดขัน ปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องในทุกมิติต่อไป อีกทั้งการแถลงข่าววันนี้ยังมีตัวแทนนักเรียน นักศึกษา และเยาวชนมาร่วม เพื่อนำข่าวสารไปบอกกล่าวกับกลุ่มเพื่อนเป็นการป้องกันอีกด้วย