Uncategorized

ผู้ว่าฯพิจิตรจับมือสนช.เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยเปิดกรุวัตถุมงคลหลวงพ่อเงินวัดบางคลานพบมีจำนวนมากมายมหาศาลแต่ยังอึมครึมไม่ยอมให้ถ่ายภาพ

ผู้ว่าฯพิจิตรจับมือสนช.เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยเปิดกรุวัตถุมงคลหลวงพ่อเงินวัดบางคลานพบมีจำนวนมากมายมหาศาลแต่ยังอึมครึมไม่ยอมให้ถ่ายภาพ
วันที่ 27 ส.ค. 2561 ความคืบหน้าจากกรณีความวุ่นวายของวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ที่มีเรื่องสืบเนื่องมาจากคณะสงฆ์ได้มีมติปลดพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและได้แต่งตั้งให้ พระครูพิสุทธิวรากร ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบางคลาน แต่ปรากฏว่าฝ่ายอดีตเจ้าอาวาสที่ถูกปลดไปนั้นมีลูกศิษย์และผู้ใกล้ชิดออกมาสนับสนุนไม่ยอมรับมติของคณะสงฆ์หรือพระผู้ใหญ่จนมีเรื่องฟ้องร้องขึ้นศาลหลายสิบคดี แต่คำพิพากษาตั้งแต่ศาลปกครอง-ศาลแพ่ง-ศาลอาญา ไปจนถึงศาลฎีกา ก็ล้วนมีคำพิพากษาไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือ คำสั่งของเจ้าคณะใหญ่หนเหนือและคณะสงฆ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว แต่รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบางคลานก็ยังไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้จนเป็นข่าวความวุ่นวายให้ชาวบ้านเสื่อมศรัทธา มีเรื่องหน้าปวดหัวยาวนามากว่า 4 ปีเต็ม ส่งผลให้ญาติโยมและผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อเงินเข้าวัดทำบุญน้อยลง เพราะเบื่อที่เห็นความแตกแยกของผู้ที่หวังผลประโยชน์หรืออย่างใดอย่างหนึ่งภายในวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน
ล่าสุดวันนี้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้เข้าเป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยทั้งฝ่าย พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาส และ ฝ่ายของ พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบางคลาน เพื่อจะทำการตรวจนับวัตถุมงคลและบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งทั้ง2 ฝ่าย คือฝ่ายอดีตเจ้าอาวาสได้มอบให้ นายไพฑูรย์ ชัยรัตน์ , นายเอกนก สัมฤทธิ์ เป็นตัวแทน , ส่วนในฝ่ายของ พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ได้มอบหมายให้ นายพร ปั้นเพ็ง กรรมวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน , นายเสน่ห์ ลือมงคล รักษาการแทนไวยาวัจกรวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เป็นตัวแทนเข้าไปตรวจนับวัตถุมงคลที่ประกอบด้วยพระเครื่อง พระบูชา ทั้งของเก่าและของใหม่ที่มีอยู่ในกฏิของอดีตเจ้าอาวาส โดยพบว่ามีจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งต้องใช้นักเรียนนักศึกษาและครูอาจารย์จากวิทยาลัยชุมชนพิจิตรนับสิบคนเข้าไปช่วยกันตรวจนับ แต่ไม่ยอมให้ถ่ายรูป รวมถึงไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในห้องที่เก็บวัตถุมงคลดังกล่าว
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันไปตรวจดูอาคารพิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณที่ถูกปิดตายมาหลายปีถามหาผู้ถือกุญแจก็ไม่มีใครมีกุญแจประตูอยู่ในครอบครอง ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันให้ตัดกุญแจเข้าไปภายในตัวอาคารพิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณของหลวงพ่อเงินที่ภายในมีแต่ฝุ่นและหยากไย่ใยแมงมุม แต่บริเวณตู้ไม่มีร่องรอยการถูกงัดแงะหรือมีความเสียหายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมหลังจากได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า สิ่งที่หลายคนอยากรู้อยากเห็นก็คือวัตถุโบราณ วัตถุมงคล ในสมัยที่หลวงพ่อเปรื่องเป็นเจ้าอาวาสนั้นยังคงมีอยู่หรือเปล่า ถ้ามีอยู่ก็ควรเปิดให้โปร่งใสให้ญาติโยมได้รู้ได้เห็นจะได้สบายใจว่าไม่มีใครลักหรือขโมย วัตถุโบราณหรือวัตถุมงคลไปเป็นสมบัติส่วนตัว นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายรายการที่ยังไม่เปิดให้ดู ให้เห็น ซึ่งในวันนี้ใช้เวลาตรวจนับตลอดทั้งวันก็ยังไม่หมด ซึ่งคงต้องรอดูผลของการดำเนินการต่อไป ว่าจะเป็นเช่นไร