เดินหน้า “การบริหารจัดการสหกรณ์การเกษตร”
ภายใต้แผนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย – กัมพูชา
นายภานุวัฒน์ ณ นครพนม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรม หลักสูตร “การบริหารจัดการสหกรณ์การเกษตร” Training Course on Agricultural Cooperative Management ณ ห้องประชุมบุษบงกช B ชั้น 2 โรงแรมรอยัลริเวอร์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร การจัดฝึกอบรมครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้แผนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย – กัมพูชา ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2560 – 2562) สาขาเกษตร แผนงานที่ 2 Development of Cooperative System ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ รับผิดชอบ โครงการ “พัฒนาธุรกิจสหกรณ์ภาคการเกษตรในราชอาณาจักรกัมพูชา (Project on the Development of Agricultural Co-operative Business in Cambodia)”
นายภานุวัฒน์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การจัดอบรมตามความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ด้านการบริหารจัดการสหกรณ์แก่บุคลากรสหกรณ์ในประเทศกัมพูชา ให้สามารถวางแผนธุรกิจของสหกรณ์ได้อย่างถูกต้อง เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งและเป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบด้านการสหกรณ์ สามารถเผยแพร่ให้แก่สหกรณ์อื่นๆ ใน กัมพูชาได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งโครงการดังกล่าวมีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ ศึกษาวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของสหกรณ์เป้าหมายในกัมพูชา ออกแบบหลักสูตรตามความต้องการ สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญของประเทศไทยให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ส่งเสริมภาครัฐของกัมพูชาและผู้นำสหกรณ์ ศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนทั้งในไทยและกัมพูชา ให้คำปรึกษาในการวางระบบและจัดทำแผนธุรกิจของสหกรณ์ คัดเลือกสหกรณ์ต้นแบบ ออกแบบคู่มือการพัฒนาสหกรณ์ต้นแบบศูนย์เรียนรู้และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โดยมีผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย คณะกรรมการและฝ่ายจัดการของสหกรณ์ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ของกัมพูชา (ข้าราชการ) และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 30 คน
นายภานุวัฒน์ ณ นครพนม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสหกรณ์ กล่าวต่ออีกว่า สหกรณ์เกิดขึ้นจากความต้องการของคนที่ประสบความยากลำบากทางเศรษฐกิจและสังคมที่เหมือน ๆ กัน และแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากการรวมตัว เพื่อช่วยเหลือตนเอง และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ด้วยต้องการให้เกิดความเป็นธรรมในสังคมและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สหกรณ์เป็นเรื่องสากล เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม ในยุคที่ผู้คนประสบกับการว่างงาน เศรษฐกิจตกต่ำ ผู้ค้าขายรายย่อยประสบความเดือดร้อน เพราะการใช้เครื่องจักรทดแทนแรงงาน การแสวงหากำไรสูงสุด และการเอารัดเอาเปรียบ แรงงานที่ประสบความยากจนจึงรวมตัวกันจัดตั้งเป็น “สหกรณ์” ดำเนินกิจการร่วมกัน เป็นเจ้าของโดยความสมัครใจ ควบคุมตามหลักประชาธิปไตย จัดหาสินค้าและบริการแก่สมาชิกตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ตามแต่กลุ่มจะเห็นร่วมกัน โดยไม่แสวงหากำไรสูงสุด แต่ดำเนินกิจการเพื่อให้สมาชิกและชุมชนอยู่ดีและเป็นสุข จากนั้นกรมส่งเสริมสหกรณ์ คาดหวังว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะนำไปสู่การขับเคลื่อนภารกิจของสหกรณ์ให้เกิดประโยชน์แก่สมาชิกและชุมชนในประเทศกัมพูชาต่อไป
Comments are closed.